คุรุสภา ลุยปรับจรรยาบรรณครู ประเมินจริยธรรมเข้ม
ข่าว ลุยสร้างมาตรฐานจรรยาบรรณครู คุรุสภา เร่งถก สภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และคุรุศาสตร์แห่งประเทศไทย ก่อน ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566 เริ่มใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง
ประเด็นความคืบหน้าการจัดทำกรอบจรรยาบรรณวิชาชีพครูให้มีความเข้มข้นมากขึ้นจากกระบวนการผลิตครูของสถาบันอุดมศึกษา หลังจาก เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภาได้หารือร่วมกับสภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และคุรุศาสตร์แห่งประเทศไทยและมีความเห็นตรงกันว่าสถาบันผลิตครูจะต้องเร่งให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะนักศึกษาครูที่อยู่ในระบบจรรยาบรรณวิชาชีพตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน อาทิ การจัดกิจกรรมหล่อหลอมพฤติกรรม เป็นต้น
ทั้งนี้ คุรุสภาได้ชี้แจงให้สภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และคุรุศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้เห็นว่า เมื่อนักศึกษาครูสำเร็จการศึกษาไปจากสถาบันผลิตครูแล้วกลับไปกระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ ซึ่งทุกคดีที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามจริง
ดังนั้น สภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และคุรุศาสตร์แห่งประเทศจะต้องให้สถาบันผลิตครูสร้างระบบประเมินด้านจรรยาบรรณวิชาชีพครูของผู้เรียนตั้งแต่ปีการศึกษาแรกที่เข้าเรียนไปจนถึงสำเร็จการศึกษา ซึ่งปีสุดท้ายของการจบการศึกษาจะต้องมีการประเมินคุณธรรมจริยธรรมครูแบบเข้มข้นด้วย
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการปรับกระบการผลิตครูด้านจรรยาบรรณวิชาชีพครูนั้นสภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และคุรุศาสตร์แห่งประเทศพร้อมร่วมขานรับการดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อให้การผลิตนักศึกษามีมาตรฐานครูที่เข้มข้นขึ้น
ขณะที่เรื่อง การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูรูปแบบใหม่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
1.ใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ครู (Provisional Teaching-License หรือ P-License)
2.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น หรือ B-license (Basic Professional Teaching License) สำหรับผู้ที่ได้ B-license แล้ว เมื่อพัฒนาตัวเองจนได้รับวิทยฐานะระดับชำนาญการขึ้นไป จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง โดยอัตโนมัติ
3.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง หรือ A-license (Advanced Professional Teaching License)
ตามข้อบังคับเรื่องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใหม่ คุรุสภากำลังเร่งประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้เพราะเป็นช่วงรอยต่อของคนกลุ่มเก่าที่ถือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพรูปแบบเดิมที่จะต้องเข้าสู่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูรูปแบบใหม่ เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน เนื่องจากจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มี.ค.2566 ที่จะถึงนี้แล้ว
ขณะเดียวกันเรื่องการตรวจสอบครูที่กระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครูนั้นที่ประชุมมีข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการเรื่องนี้ขึ้นหนึ่งชุด โดยทำหน้าสอบสวนร่วมกับศึกษาธิการจังหวัดและเขตพื้นที่ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบครูที่กระทำความผิดมีบทลงโทษที่รวดเร็วมากขึ้น.