หากพูดถึงนักร้องที่ถูกอวยยศให้เป็นเจ้าพ่อเพลงงานแต่งของเมืองไทย คงจะหนีไม่พ้นเจ้าของน้ำเสียงนุ่มหูอย่างพ่อหนุ่ม “เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์” อย่างแน่นอน เพราะหนุ่มเอ๊ะนั้นถือได้ว่าเป็นตัวพ่อแห่งวงการเพลงประกอบละครเลยทีเดียว แถมแต่ละเพลงที่ถูกปล่อยออกมาให้ฟังก็มีเนื้อหาที่สุดแสนจะโรแมนติกมาก ๆ จึงไม่แปลกที่คู่บ่าวสาวหลายคำนำเพลงของเอ๊ะไปเปิดในพิธีมงคลสมรสของตัวเอง
แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าจะเป็นหนุ่ม เอ๊ะ จิรากร อย่างที่ทุกคนรู้จักกันในวันนี้ เส้นทางชีวิตในการเป็นศิลปินของเอ๊ะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เอ๊ะใช้เวลากว่า 10 ปี บนเส้นทางสายนี้ แถมยังอยู่ในสังกัดมาแล้วอีกหลายค่าย ก่อนจะได้มาโชว์ความสามารถแบบเต็มสูบผ่านการเป็นหน้ากากอีกาดำในรายการ The Mask Singer วันนี้เดอะไทยเกอร์ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักพ่อหนุ่มเสียงนุ่มคนนี้กันให้มากขึ้นอีกสักหน่อย
ประวัติ ‘เอ๊ะ จิรากร’ เจ้าพ่อเพลงประกอบละคร กับความสามารถแบบร็อก ๆ
สำหรับหนุ่ม เอ๊ะ มีชื่อจริงว่า จิรากร สมพิทักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ปัจจุบันอายุ 45 ปี พื้นเพเป็นคนจากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คณะศึกษาศาสตร์ แต่กว่าจะเรียนจบก็ปาไป 5 ปี เนื่องจากช่วงที่กำลังเรียนในมหาวิทยาลัย หนุ่มเอ๊ะเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในชมรมที่มีกีตาร์ไฟฟ้าให้เล่นฟรี
ในช่วงชีวิตมัธยมเอ๊ะหัดเล่นกีตาร์โดยดูจากตัวอย่างเพลงอคูสติกเก่า ๆ ที่คุณพ่อเล่นให้ดู กระทั่งช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เอ๊ะก็ได้ตั้งวงอคูสติกขึ้นมา เนื่องจากไม่มีเงินซื้อกีตาร์ไฟฟ้า แต่หลังจากเรียนจบะดับอุดมศึกษาก็เริ่มทำเพลงใต้ดินร่วมกับวง Dezember และ Heretic angle เป็นวงหลัก จากนั้นเอ๊ะก็มีผลงานแนวร็อกเมทัลภายใต้ชื่อวง Nothing to Lose
หลังจากนั้น เอ๊ะ จิรากร ก็ได้เข้ามาเป็นนักร้องฝึกหัดในค่าย Up G เครือเดียวกับ GMM Grammy และได้ช่วยทำเพลงให้กับวง Potato ในชุดรีเฟรชที่มีเพลงฮิตอย่าง รักเธอไปทุกวัน ซึ่งเอ๊ะได้ทำหน้าที่เป็นนักร้องไกด์เพลงเกือบทั้งหมด และในที่สุดเอ๊ะก็ได้มีโอกาสรู้จักกับ ฟองเบียร์ นักแต่งเพลงชื่อดังของค่ายแกรมมี่ จึงถูกฟองเบียร์ชักชวนไปเป็นักร้องไกด์เพลงต่าง ๆ มากมาย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทางฟองเบียร์ก็ได้ออกมาเปิดค่ายเพลงชื่อว่า We Record และแต่งเพลง ไม่มีตรงกลาง หนึ่งในเพลงจากอัลบัม Project Love Pill ให้เอ๊ะนำไปร้อง นอกจากนี้ด้วยเหตุบังเอิญที่คนเปิดเพลงเปิดผิดจึงทำให้เอ๊ะได้โอกาสในอาชีพนักร้อง ซึ่งต่อมาเพลงดังกล่าวก็กลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองจนถึงทุกวันนี้ และทำให้ เอ๊ะ จิรากร ได้ออกอัลบัมชุดแรกคือ ใจกลางความรู้สึกดีดี ออกมาในปี พ.ศ. 2555
ในปีต่อ ๆ มาเอ๊ะ จิรากรก็ได้มีผลงานเพลงประกอบละครออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนกว่า 10 เพลง และได้รับรางวัล เพลงประกอบละครยอดนิยม ขวัญใจมหาชน ในงานประกาศรางวัล มายา มหาชน 2017 (Maya Award 2017) จากเพลง “กลับมา” ประกอบละคร “ชะนีผีผลัก” ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 จนกลายเป็นที่มาของสมญานาม “เจ้าพ่อเพลงละคร” นั่นเอง
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ทว่าความจริงแล้วเอ๊ะทำงานเพลงใต้ดินกว่า 10 ปี รวมถึงอาชีพนักร้องไกด์อีก 5 ปี ซึ่งเอ๊ะเคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองไปอยู่ค่ายเพลงไหนค่ายเพลงนั้นก็ต้องปิดตัวลง แม้แต่ตอนที่มีเพลงดังออกมาให้ได้ฟังกันบ้างแล้วก็ยังมีช่วงจังหวะชีวิตที่ถูกขัดโชคขัดลาภอยู่ตลอด ทำให้เอ๊ะได้รับฉายาในวงการเพลงไทยว่า “นักร้องจังหวะนรก”
กระทั่งในปี พ.ศ. 2560 หลังจากที่เอ๊ะเดินทางไปออกรายการ The Mask Singer โดยเลือกเป็น หน้ากากอีกาดำ ก็ทำให้หลายคนได้รับรู้ถึงพลังและความสามารถในด้านการร้องเพลงร็อกของเอ๊ะ เรียกไดว่าเป็นการออกรายการเพลงที่พลิกบทบาทชีวิตของเอ๊ะจากหลังมือเป็นหน้ามือกันเลยทีเดียว เพราะหลังจากเฉลยว่าเอ๊ะ จิรากร คือหน้ากากอีกาดำ ก็ทำให้ทุกคนต่างตื่นตะลึงในฝีมือการร้องเพลงของเขา สลัดภาพเจ้าพ่อเพลงงานแต่งไปได้อย่างหมดจด
ทั้งนี้แม้ว่าจะประสบความสำเร็จช้า กว่าจะเริ่มดังและผลงานเพลงกลายเป็นที่นิยมเอ๊ะก็อายุได้ 35 ปีแล้ว แต่เอ๊ะ จิรากร ก็ไม่เคยยอมแพ้ ไม่ว่าชีวิตจะเจอจังหวะนรกยังไงเอ๊ะก็ผ่านมาได้ และผ่านมาเจอสิ่งที่ดีมาก ๆ ในชีวิตอีกด้วย ถือเป็นแบบอย่างให้นักร้องรุ่นน้องหลายคนที่ยังอยู่ในช่วงล้มลุกคลุกคลาน ว่าสักวันหนึ่งหากเราพยายามและตั้งใจจริง ก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน.
