เชื่อว่าจะต้องมีหลายคนที่ยังไม่รู้จัก “วันชาสากล” (International Tea Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ธันวาคมของทุกปี โดยในปี 2565 นี้ เราถือโอกาสพาทุกคนไปย้อนประวัติความเป็นมาวันชาสากล จุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มสายเฮลตี้ ขวัญใจของคนรักสุขภาพทั่วโลก ที่สืบทอดภูมิปัญญากันเรื่อยมากว่า 5,000 ปี
สาระน่ารู้ วันชาสากล 15 ธันวาคม 2565
แม้ว่า “ชา” จะเกิดขึ้นมากว่า 5,000 ปี แต่วันสำคัญอย่าง “วันชาสากล” กลับเพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อช่วงปี 2548 โดยกลุ่มชาวเกษตรกรของอินเดีย ที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมในกระบวนการค้าขายชา ก่อนจะมีการยึดถือเอาวันที่ 15 ธันวาคม 2565 มาเป็นวันชาสากลนับตั้งแต่นั้นมา
“ชา” เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพของคนทั้งโลก
เล่าขานกันมาว่า “ชา” ได้ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีก่อน โดยเริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกในกลุ่มชาวเอเชียฝั่งตะวันตก ได้แก่ประเทศจีน และอินเดีย ซึ่งพบว่าในสมัยจักรพรรดิของจีนที่ชื่อว่า “เสินหนิง” ได้มีการริเริ่มดื่มชา พร้อมจดบันทึก “วรรณกรรมชาคลาสสิกฉาชิง” (Cha Ching) ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
ทางด้านประเทศอินเดีย ก็ได้มีการทำชาเพื่อการเกษตร ซึ่งมีทั้งที่นำเข้ามาจากจีน และคิดค้นสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ก่อนจะเริ่มแพร่ขยายไปไกลขึ้น จนถึงประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จนทั่วเอเชีย ไม่พ้นแม้แต่ทวีปฝั่งตะวันตกอย่าง อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
ในประเทศไทยเอง ชาก็ถือเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยในร้านอาหารหลายร้าน ก็ได้เลือกเสิร์ฟเครื่องดื่มด้วยชารูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีชาแบบแช่เย็นขาย ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป โดยประเทศไทยได้มีแหล่งเพาะปลูกชาเป็นของตัวเองในจังหวัดต่าง ๆ บริเวณภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน
การประท้วงนำไปสู่วันชาสากล”
เมื่อช่วงปี 2548 เกษตรกรในอินเดียที่อยู่บริเวณฝั่งแบงกอลตะวันตกและทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ได้เล็งเห็นถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในกระบวนการค้าขายชา ที่ทำให้ตลาดเกิดความซบเซา จนเกษตรกรแทบไม่มีรายได้
นำไปสู่การออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาระบบการบริหารงานที่ไม่มีคุณภาพ จนสร้างความอ่อนแอให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนการผลิตชา ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อให้ได้ชาที่รสชาติดีและมีคุณภาพมากขึ้น
จากการเรียกร้องนี้เอง ทำให้เกิดการจัดตั้งวันชาสากล ขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม เพื่อถือเป็นการเฉลิมฉลองให้กับคุณภาพชีวิตของชาวเกษตรกรที่เพาะปลูกชา และเพื่อตระหนักถึงความสำคัญ ตลอดจนคุณประโยชน์ของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นกระแสนิยมไปทั่วทุกมุมโลก
ประโยชน์ของการดื่มชา
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ชากลายมาเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม ไม่ใช่เพียงเพราะรสชาติและราคาที่เอื้อมถึงได้เท่านั้น แต่เป็นเพราะชามีคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง ดังนี้
- ช่วยชะลอวัยและบำรุงผิว
- ช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยลดคลอเลสเตอรอล
- ช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง
- ช่วยละลายไขมันในร่างกาย
- ช่วยดูดซึมน้ำตาล
- ช่วยขจัดไขมันในลำไส้
ทั้งหมดนี้คือสาระดี ๆ เกี่ยวกับวันชาสากล 15 ธันวาคม 2565 ที่เรานำมาฝากทุกคน บอกเลยว่าชาถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่คู่ควรแก่การมีไว้ที่บ้าน โดยแนะนำให้ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม จะได้ช่วยส่งเสริมร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เพราะหากดื่มมากจนเกินพอดี ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียที่ไม่พึงประสงค์ได้เช่นเดียวกัน.
