ชวนทำความรู้จัก “เฌอเอม ชญาธนุส” หลังคว้ามงกุฎ มิสแกรนด์ลำพูน 2023 ไปเป็นตัวแทนประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ท่ามกลางผู้เข้าประกวดสาวงาม 4 คนสุดท้าย จากการแสดงทักษะและทัศนคติการตอบคำถาม จนเรียกคะแนนจากคณะกรรมการได้อย่างล้นหลาม
เปิดประวัติ เฌอเอม–ชญาธนุส ศรทัตต์ อดีตผู้เข้า ประกวด ‘Miss Universe Thailand 2020 (มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020) ได้ปรากฏตัวบนหน้าสื่อพร้อมเขย่าวงการนางงามอีกครั้ง ด้วยการคว้ามงกุฎ “มิสแกรนด์ลำพูน 2023” เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่ SHOW DC HALL จากการโชว์ทักษะการตอบคำถามที่ตรงใจและสะท้อนปัญหาสังคม ในรอบตัดสินในหัวข้อ “นางงาม สังคม และประชาธิปไตย” พร้อมเป็นตัวแทน มิสแกรนด์ลำพูน ในการส่งเข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ต่อไป
ทั้งนี้ กว่าที่เฌอเอม ชญาธนุส มิสแกรนด์ลำพูน 2023 คนปัจจุบัน จะมายืนบนจุดนี้ได้ก็ต้องฝ่าฟันเส้นทางชีวิตและอุปสรรคหลายอย่าง ทีมงานเดอะไทยเกอร์ จะพาผู้อ่านทุกท่านเปิดประวัติของมิสแกรนด์ลำพูน 2023 “เฌอเอม ชญาธนุส” พร้อมทำความรู้จักนางงามคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ประวัติ “เฌอเอม ชญาธนุส” นางงามสายสมอง จากอดีตผู้ประกวด MUT สู่ตัวเต็งมงใหญ่ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023
“ชญาธนุส ศรทัตต์” มีชื่อเล่นว่า “เฌอเอม”อายุ 28 ปี คือผู้ชนะมงกุฎมิสแกรนด์ลำพูน 2023 เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนไหหลำ จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) จากนั้นได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเฌอเอมมีทักษะและงานอดิเรกเป็นการวาดรูป
ทั้งนี้ เฌอเอม–ชญาธนุส ศรทัตต์ ยังเคยให้ข้อมูลว่าตนเองเคยประสบอุบัติเหตุจนทำให้เสียฟันด้านหน้าไปอย่างถาวร บวกกับปัญหาเรื่องรูปปากที่ผิดรูปส่งผลให้เธอพูดไม่ชัด แต่ด้วยทัศนคติในแง่บวกและการไม่ยอมแพ้ในชีวิต ทำให้เฌอเอม–ชญาธนุส ศรทัตต์ สามารถผลักดันตัวเองก้าวเข้าสู่วงการนางแบบในระดับโลกมาแล้วด้วยการเป็น ผู้เข้าประกวด ‘Miss Universe Thailand 2020 (มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020) ที่ผ่านมานั่นเอง
ประวัติผลงานและเส้นทางนางแบบ “เฌอเอม”
นอกจากนี้ เฌอเอม–ชญาธนุส ศรทัตต์ ยังได้เคยทำงานเป็นนางแบบร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Channel, Dior และ Giorgio Armani และยังมีโอกาสได้ไปเดินแบบบนรันเวย์ระดับโลกอย่าง Milan Fashion Week
แม้ว่าเส้นทางชีวิตนางแบบของ เฌอเอม ชญาธนุส จะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องประสบพบเจอกับปัญหาดราม่า หลังจากที่ เฌอเอม ชญาธนุส มีกระแสบนโซเชียลเรื่องความสัมพันธ์กับสาวนางแบบและนักแสดงชื่อดังอย่าง “คิตตี้ ชิชา” ซึ่งทั้งสองคนเองก็ได้ออกมาบอกว่ารู้จักและสนิทกันมาก่อนหน้านี้แล้ว
เฌอเอม ชญาธนุส นับว่าเป็นนางงามที่เป็นแบบอย่างของการมีทัศนคติในแง่บวกต่อคนรุ่นใหม่ จากการที่เธอมักแชร์เรื่องราวแรงบันดาลใจ รวมถึงความฝันและเป้าหมายในการใช้ชีวิตและการทำงานของเธอ จนทำให้มีผู้คนสนับสนุนเป็นจำนวนมาก
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 เฌอเอม–ชญาธนุส ศรทัตต์ ก็ได้ทำตามฝันของตัวเองสำเร็จ ด้วยการคว้ามงกุฎ “มิสแกรนด์ลำพูน-ลำปาง 2023” ที่ SHOW DC HALL พร้อมเป็นตัวแทน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ มุ่งสู่เวทีระดับประเทศ
เปิดคำตอบ “เฌอเอม” ชญาธนุส คว้ามิสแกรนด์ลำพูน 2023
ในรอบ 10 คนสุดท้าย ในหัวข้อ “นางงาม สังคม และประชาธิปไตย” ประกาศผล 6 คนสุดท้าย เฌอเอม ชญาธนุส ได้รับคำถามว่า
“หากมีเยาวชนรุ่นใหม่กำลังเกิดความสงสัยว่าการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์มีขึ้นเพื่ออะไร คุณในฐานะผู้เข้าประกวดจะมีวิธีบอกกับเยาวชนเหล่านั้นอย่างไร ให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่และคุณค่าของเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เพื่อให้เยาวชนสามารถยึดคุณเป็นแบบอย่างที่ดีในอนาคตได้”
เฌอเอม ชญาธนุส ได้ตอบคำถามในหัวข้อนี้ ที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่สามารถพบเจอได้ในทุกที่ทุกเวลาและเป็นสิ่งที่เราต้องไขว้คว้าไว้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะทำได้หรือไม่ได้แต่จงหยิบจับโอกาสนั้นไว้ เพราะไม่แน่ว่าโอกาสเหล่านั้นอาจนำพาเราไปพบเจอกับเส้นทางใหม่ ๆ ในอนาคต อย่างที่เธอได้ตอบเอาไว้ว่า
“เอมอยากบอกถึงทางเลือกในชีวิต เพราะว่าเยาวชนมักจะประสบปัญหากับ 2 อย่าง หรือไม่ก็ไม่มีทั้ง 2 อย่าง นั่นคือครอบครัวและการศึกษา ว่าเราสามารถมีชีวิตที่ดีได้ มีทางเลือกอาชีพ เพราะว่ามิสแกรนด์ให้โอกาสกับชุมชน พัฒนาชุมชน และให้โอกาสกับคน เหมือนที่เอมมาประกวดและได้โอกาสทำงานกับชุมชน พัฒนาจังหวัดลำพูน ทั้งๆที่เอมไม่ได้จบการศึกษาทางนี้ อยากให้น้องๆ ยึดสิ่งนี้เป็นแบบอย่างในวันที่รู้สึกว่าชีวิตไม่มีทางเลือก ว่าเราสามารถหาโอกาสได้ในทุกที่ ทุกเวลา แม้แต่ในที่ที่ดูเป็นไปไม่ได้ และอย่างที่เอมบอก โอกาสเป็นสิ่งที่เราต้องหาเอง ไม่ใช่สิ่งที่เคยมีคนอื่นบอกว่าดี อย่างคืนนี้เอมได้มามากมายแล้วค่ะ แม้ว่าเอมจะไม่ได้มง แต่เอมบอกเลยว่า ชีวิตเอมสมบูรณ์เพราะมิสแกรนด์”
อย่างไรก็ตาม เฌอเอม ชญาธนุส ได้แสดงให้ผู้คนได้เห็นว่า ความสวยนั้นไม่ได้มาจากภายนอกอย่างเดียว แต่หมายยถึงภายในจิตใจหรือทัศนคติที่เรามองโลกรอบตัวและพร้อมเรียนรู้พัฒนาเพื่อประโยชน์ของสังคมอีกด้วย ดังคำพสังเพยที่ว่า “เราเป็นอย่างที่เราคิด”