อินโดนีเซียสุดเข้ม ออกกฎหมาย “ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน” นักท่องเที่ยวโดนด้วย
อินโดนีเซียหนึ่งในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแต่ก็ผสมการปกครองด้วยจารีตมุสลิมอย่างเข้มข้น ล่าสุดได้ผ่านกฎหมายสุดเข้ม “ห้ามบุคคล หมายถึงชายหญิง ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน” ยังรวมไปถึงการเพิ่มกฎหมายต่อต้านการดูหมิ่นศาสนาอย่างรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง
กฎใหม่ซึ่งบังคับใช้กับชาวต่างชาติในประเทศด้วย อันรวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเพียงชั่วคราว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน นักธุรกิจ และนักศึกษา พวกเขาตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดกับชุมชน LGBT และชนกลุ่มน้อยทางศาสนา เนื่องจากการมีเซ็กซ์ในเพศเดียวกันก็ถือว่ามีความผิด
ฝ่ายตรงข้ามยังกล่าวด้วยว่ากฎดังกล่าวคุกคามชื่อเสียงระดับโลกที่อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกที่ได้สร้างขึ้นในฐานะประเทศที่มีความอดทนอดกลั้นต่อบุคคลต่างศาสนามาอย่างยาวนาน
ย้อนกลับไปในปี 2019 รัฐบาลพยายามผ่านร่างกฎหมายที่คล้ายกัน แต่ประธานาธิบดี Joko Widodo ระงับร่างดังกล่าวหลังจากคนหนุ่มสาวหลายหมื่นคนออกมาประท้วงตามท้องถนน โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายดังกล่าวคุกคามสิทธิเสรีภาพของพวกเขา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนของอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสนับสนุนฝ่ายต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ยอมรับว่าการยกเครื่องกฎหมายใหม่นี้ “จะไม่ทำให้ทุกคนพอใจ แต่หากมีพลเมืองที่รู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ประตูของศาลรัฐธรรมนูญก็เปิดกว้างสำหรับเรื่องนี้”
นาย Willy Aditya สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรค NasDem ซึ่งนิยมฝ่ายซ้าย ปฏิเสธคำกล่าวหาว่าอินโดนีเซียกำลัง “เปลี่ยนเป็นประเทศอิสลาม” แต่กล่าวว่ากฎหมายใหม่ที่กำหนดให้การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เขียนขึ้นจากอารมณ์ความรู้สึก ไม่ใช่การวิจัย กฎหมายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างกิจการสาธารณะและกิจการส่วนตัว เขากล่าว “ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดในระบอบประชาธิปไตย”