สืบเนื่องจากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติ หมอหนุ่มอายุ 28 ปี เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “สู้ดิวะ” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตตัวเองที่มีอนาคตที่ดี เรียนจบแพทย์ ได้เป็นอาจารย์หมอกำลังจะแต่งงาน ชีวิตก่อนหน้านี้ดูแลร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี นอนหลับพักผ่อน ออกกำลังกาย สุดท้ายกลับตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย มีผู้แชร์ไปกว่า 1.5 แสนครั้ง
“ผมกำลังจะแต่งงาน กำลังจะซื้อบ้าน แล้วผมก็เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย” นี่คือประโยคที่ทรงพลังที่สุดของหมอโพสต์สรุปลงเพจ ปัจจุบันมีผู้ติดตามแล้วกว่า 3 แสนคน
ต่อมาได้มีสื่อหลายสำนักรายงานข่าวหมอเป็นมะเร็งปอดนี้ และพยายามติดต่อสัมภาษณ์คุณหมอและคนใกล้ชิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุดคุณหมอได้ออกมาอัปเดตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก ขอบคุณทุกกำลังใจทุกคนที่ส่งเข้ามาและขอบคุณคนที่ได้พลังบวกไปจากหมอ ตัวเองตกใจกับกระแสที่เกิดขึ้น เพจนี้ตนตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมความคิด มุมมองและสิ่งที่ตัวเองตกตะกอน เพื่อเอาไปเขียนรวมเล่มหนักสือสักเล่มหนึ่งเท่านั้น
ตอนนี้หมออยู่ในกระบวนการรักษา ต้องรับเคมีบำบัด ตอนนี้ก็ยังมีอาการปวดหัว อ่อนเพลีย ผมร่วง ภูมิคุ้มกันต่ำ จึงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์กับสื่อใด ๆ เพราะทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเพียง 1 เดือน ยังไม่พร้อมอยู่ในสภาพที่พร้อมจะพบทุกคนได้
หมอย้ำในตอนท้ายว่า ชีวิตปกติของตนทุกอย่างโอเคมาก มีความสุขดีมาก ๆ จึงอยากขอพื้นที่ส่วนตัว ให้ตนได้ใช้ชีวิตส่วนตัวแบบสงบสุขต่อไป เพื่อจะได้มีพลังมาบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ต่อไป ขอบคุณทุกคนที่พยายามเข้าใจ
“สวัสดีครับ
ผมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ และขอบคุณคนที่ได้พลังไปจากโพสต์ของผมครับ
จากใจเลยคือผมตกใจมากๆกับกระแสที่เกิดขึ้น
ผมตั้งใจทำเพจนี้ขึ้นมาเพื่อจะรวบรวมความคิด มุมมอง และสิ่งที่ผมตกตะกอน เอาจริงๆคือเพื่อจะเอาไปเขียนเป็นหนังสือรวมเล่มสักเล่มนึง แค่นั้นเลยครับ
ความตั้งใจของผม มีแค่การเขียนเล่าเรื่องราวและส่งต่อพลังให้กับคนอื่นเท่านั้นครับ
แต่
ผมจำเป็นต้องบอกตามตรงว่า
“ขณะนี้ผมเองอยู่ในกระบวนการรักษา” ยังต้องรับยาเคมีบำบัด ณ วันที่พิมพ์อยู่นี้ ผมก็ยังคงปวดหัว อ่อนเพลีย ผมร่วง และภูมิคุ้มกันต่ำ
เหนือสิ่งอื่นใด ถึงผมจะดูจิตใจเข้มแข็งแค่ไหน แต่เรื่องทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นได้หนึ่งเดือนครับ
ผมและครอบครัว รวมถึงเพื่อนสนิทเอง ก็ยังไม่ได้อยู่ใน”สภาพที่พร้อมพอ”
ที่จะให้ทุกคนมาเยี่ยม ที่จะไปเจอทุกคนได้ครับ
หวังว่าทุกคนจะเข้าใจครับ
.
รวมถึงสื่อต่างๆที่ให้ความสนใจ อยากจะสัมภาษณ์ผม โทรไปหาเพื่อน โทรไปหาครอบครัวผม และกำลังพยายามจะโทรหาผม
ผมเข้าใจในมุมสื่อนะครับ
ผมต้องขอโทษจากใจจริงๆที่คงไม่สะดวกไปสัมภาษณ์กับสื่อสำนักไหนครับ
.
ผมดีใจมากๆครับที่เรื่องราวของผมสร้างแรงบันดาลใจและบางมุมก็ทำให้หลายคนอยากส่งกำลังใจกลับมาให้ผม อยากช่วยเหลือผม บางคนจะโอนเงินให้บ้าง จะบินมาหาบ้าง
.
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ
แต่ในมุมคนรับอย่างผม
ผมอยากบอกว่าชีวิตปกติของผม มันโอเคมากๆแล้วครับ ผมมีความสุขดีมากๆ
ดังนั้น
ผมอยากจะแค่ขอพื้นที่ส่วนตัว
ให้ผมได้ใช้เวลาชีวิตของผมแบบสุขสงบต่อไป
เพื่อที่ผมจะได้มีพลัง มาบอกเล่าเรื่องราวดีๆต่อไปครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้าและพยายามจะเข้าใจครับ”
ที่มา : สู้ดิวะ
ในโพสต์ดังกล่าวได้มีประชาชนมากมายเข้ามาให้กำลังใจคุณหมอเป็นจำนวนมาก
