เป็นอีกหนึ่งคู่รักคนดังที่ดูรักกันมาก สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ’ กับภรรยาสาว ‘เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ’ แต่ล่าสุด (9 พ.ย. 65) ทั้งคู่ก็ได้มีการควงกันออกมาเปิดใจเล่าเส้นทางรัก รับเคยคิดจบความสัมพันธ์ เพราะความเผด็จการบ้าอำนาจของสามี ผ่านรายการ ‘WOODY FM’ โดยระบุว่า
ช่วงที่ขรุขระคือช่วงไหน ?
เอ๋: ช่วงมีลูกคนแรก เพราะว่าเราไม่เคยมีลูกกันมาก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ ขั้นต่อไปต้องทำอะไร เราไม่รู้ ก็เลยเกิดการทะเลาะกัน เพราะเธอคิดแบบนั้น ฉันคิดแบบนี้ ทำไมเธอไม่คิดแบบฉัน ทำไมฉันไม่คิดแบบเธอ
ป๋อ: ทะเลาะกันตลอดเวลาตั้งแต่คบกันแล้วนะ เป็นทะเลาะแบบสามัญ แต่ตอนมีลูกมันทะเลาะที่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนทุกครั้ง เป็นทะเลาะที่เห็นแววตาที่ไม่ใช่ของแฟนที่ทะเลาะกัน มันเริ่มเห็นแววตาว่าเอ๋ไม่ยอมแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้เอาดิ เอาไง เริ่มท้าทาย แล้วเรารู้สึกว่ามันไปต่อไม่ได้
เคยถึงจุดที่รู้สึกว่าต้องยุติมั้ย ?
เอ๋: มีค่ะ อย่างที่พี่ป๋อเคยบอกว่า สายตามันเปลี่ยนไปสายตาที่เอ๋มองพี่ป๋อคือฉันไม่อยากเจอหน้าผู้ชายคนนี้ ฉันเกลียด มันมีอารมณ์นั้นแวบเข้ามา
ป๋อ: ตอนนั้นก็เกลียดเอ๋ ไม่ชอบ
เอ๋: เขาบอกเอ๋เลยว่าพี่เกลียด
ป๋อ: ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ ลงมาจากบันไดก็เกลียด ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้ ทำไมต้องฟึดฟัด ทำไมอยู่กันดี ๆ ไม่ได้ พูดอย่างนี้ก็จะไปอย่างนั้น เคยรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดมั้ย เราไม่ได้เกลียดแบบจะไปห้ำหั่นเขานะ แต่เราไม่ชอบเขาแบบนี้
8 ปีที่ผ่านมาที่เคยจีบไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้หนิ ทำไมเปลี่ยนไป มีลูกต้องดีขึ้น แล้วทำไมไม่พยายามสร้างให้มันดีกว่านี้ มันวน มันตีก็เกิดเป็นความชิงชัง
สิ่งเหล่านี้เกิดอยู่ประมาณครึ่งปี เราถึงขั้นคิดของเราแล้วว่าเราจะไปไหนต่อ ถ้าเกิดหย่าต้องทำยังไง เคยถามเพื่อนที่เป็นทนายด้วยถ้ามันเกิดขึ้นอย่างนี้จะต้องทำยังไง คิดไปถึงนั้นแล้ว เอ๋ไม่เคยรู้
วันนึงเรียกกันมาคุยว่าถ้าเอ๋ทำแบบนี้ ลูกต้องอยู่กับเอ๋ เอ๋ก็ต้องมีผัวใหม่ พี่ก็ต้องมีเมียใหม่ แล้วอยากได้แบบนี้มั้ย ก็ได้นะ มันก็แค่นี้
วันนึงคุณต้องมูฟออนอยู่แล้ว ก็ต้องเลือกว่าเอ๋อยากได้แบบนั้นหรือเปล่า ตอนนั้นเลว เป็นคนมีมุมที่จะต้องชนะเหมือนกัน และคนที่เราทำร้ายก็คือเขานี่แหละ แล้วพอจะไปหย่าจริง ๆ โมเมนต์มันเริ่มเกิด เราไม่ได้อยากได้แบบนี้ แล้วมันแปลกมากที่เริ่มคุยดีมากขึ้น ทะเลาะน้อยลง ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ในช่วง 6 เดือนนั้นเป็นอย่างไร ?
ป๋อ: เราไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเหมือนเดิมแล้ว เขาก็ไปในสิ่งที่เขาอยากไป ผมก็ไปทำในสิ่งที่ผมอยากทำมากขึ้น โดยไม่ต้องแคร์ซึ่งกันและกัน แต่ยังอยู่บ้านเดียวกันนะ
เขาก็ไปกับลูกบ้าง จะไปกินข้าวเขาก็ชวนผมไป ก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม ใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ก็มีบางช่วงที่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิต และเราก็ไม่ชอบ ไม่ชอบโมเมนต์ของการโดดเดี่ยวแบบนี้ รู้สึกเหมือนอยู่ไม่ได้
อย่างที่คุณบอก เมื่อก่อนทุกอย่างมันเหมือนของตาย พอมาวันนี้เอ๋ไปกินข้าวกับเพื่อน 4-5 ทุ่มยังไม่กลับบ้าน เรารู้สึกว่าของตายอันนี้ มันเริ่มไม่ใช่ของตายของเราอีกต่อไปแล้ว และเขาสามารถไปคุยกับใครก็ได้ไง ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งบ้างในบางครั้ง แต่ก็รู้สึกว่าทะเลาะกันเอ๋น้อยลงแล้วก็เริ่มไม่เกลียดเขาแล้ว
มันจบลงอย่างไร ความรู้สึกมันหายไปด้วยเหตุการณ์อะไร ?
ป๋อ: ลูก แม่ คุยกับแม่ แม่บอกว่าผมไม่ได้อยากได้แบบนี้หรอก แม่บอกว่าผมพยายามได้มากกว่านี้ ก็เลยคิดว่า ใช่ ชนะไปแล้วได้อะไร
แล้วพฤติกรรมอะไรของเอ๋ที่ป๋อโคตรรำคาญ ?
ป๋อ: เอ๋จะเป็นคนดื้อเงียบ เขาจะไม่ทำตาม แต่เขาจะไม่เถียง หรือจะมีภาษากายที่แสดงให้เราเห็นว่าเขาไม่ได้เรา ยิ่งไม่เถียงเรายิ่งรู้สึกโกรธ เถียงมันยังดีกว่า ก็อยากให้ลองพูดมา
แต่เขาก็จะบอกว่าอย่าหาเรื่อง แต่เราแค่อยากจะพูดให้มันเคลียร์ และผมก็เป็นคนค่อนข้างเจ้ากี้เจ้าการด้วยแหละ เจ้าระเบียบ เจ้าวางแผน เป็นคนน่ารำคาญคนหนึ่งแหละ
เอ๋: ความบ้าอำนาจ เผด็จการ เจ้าระเบียบ จุกจิกคิดเล็กคิดน้อย ก็หลายเรื่องอยู่นะ เขาจะเป็นผู้ชายหัวโบราณ จะคิดเสมอว่าสิ่งที่เขาคิด สิ่งที่เขาว่ามันเป็นสิ่งที่เขาวางแผนและถูกต้องแล้ว เอ๋ไม่มีสิทธิ์ที่จะเถียงหรืออะไร เอ๋ก็เลยเงียบ พอเงียบก็จะผิดว่าทำไมไม่พูด พอพูดก็ผิดว่าทำไมเถียง
ที่เขาเป็นอย่างนี้มันมีข้อดีมั้ย ?
เอ๋: ข้อดีคือเขารักเรา ถ้าไม่รักก็คงไม่เป็นอย่างนี้ ไม่เจ้าระเบียบ เจ้ากี้เจ้าการทั้งหลายทั้งปวงเกิดจากความรักแหละ
ป๋อ: เพื่อนสนิทที่สนิทรู้ใจเรามาก เขาจะบอกว่ารู้มั้ยว่าเป็นเอ๋เหนื่อยนะ เขาเหนื่อยแทนเอ๋ที่อยู่กับผม (หัวเราะ) เพื่อนเข้าใจว่าเอ๋เหนื่อย ผมก็เลยพยายามไงผมว่าความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องของความพยายาม
มันไม่มีใครเพอร์เฟกต์หรอก มันไม่มีใครสมบูรณ์แบบเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อกันพอดีตามที่เราคุยตอนงานแต่งมันไม่ใช่ขนาดนั้น เพราะสุดท้ายเราก็ต้องมาปรับกันเรื่อย ๆ ต้องหาเวลามาต่อจิ๊กซอว์กันเรื่อย ๆ
https://www.youtube.com/watch?v=xPKvUaHy3Co