ข่าวดารา

‘แจม รชตะ’ เล่าฉากเลิฟซีน ‘คุณชาย’ เผยความเปลี่ยนแปลงหลังมีชื่อเสียง

‘แจม รชตะ’ เล่าความรู้สึก ฉากเลิฟซีน ‘คุณชาย’ เผยภูมิใจมาก ลั่น! ชีวิตเปลี่ยนหลังมีชื่อเสียง รายรับเยอะขึ้น ซัพพอร์ตย่าได้มากขึ้น

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ‘แจม รชตะ หัมพานนท์’ นักแสดงนำจากเรื่อง ‘คุณชาย’ ได้ไปออกรายการ ‘คุยแซ่บshow’ เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิต รวมถึงความรู้สึกระหว่างถ่ายทำฉากเลิฟซีน ประกบคู่พระเอกรุ่นพี่ ‘ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ’ โดยระบุว่าตอนถ่ายกับตอนที่ดูช่วงเช็กเทป มันต่างกันมาก

Advertisements

“ต่างกันมากครับ ตอนถ่ายเราคือตัวละครที่เป็นคาแรคเตอร์ของจิวจริง ๆ อ่ะครับ เราจะไม่เอาแจมเข้าไปผสมอะไรทั้งสิ้น สมาธิเราจะโฟกัสอยู่ที่ตัวละครแล้วความต้องการของเขาอย่างเดียว แล้วพอเราออกมานั่งดูที่ตอนเช็กเทป โอ้โห ทำไมมันดีจังเลย มู้ดมันดีไปหมด แล้วมันเห็นความรักของคนสองคน เขาเหมือนกับ มันขาดอะไรไปสักอย่างในชีวิต แล้วทั้งสองคนมาเติมเต็มให้กัน”

ส่วนเรื่องระยะเวลาการถ่ายทำ แจมบอกว่าถ่ายกันนาน โดยเริ่มถ่ายฉากในห้องตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง จนเกือบห้าโมงครึ่ง เนื่องจากทีมงานและผู้กำกับ ต้องการสื่อความรักของเทียนและจิวออกมาให้ได้มากที่สุด ทำให้แจมภูมิใจกับผลงานมาก

แจมรชตะล่าสุด
ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

เมื่อโดนถามถึงความเขินอายที่ต้องเข้าฉากเลิฟซีนกับรุ่นพี่อย่าง ‘ฟิล์ม ธนภัทร’ แจมก็ได้เล่าว่า ในวันถ่ายทำได้นั่งรถไปกองถ่ายด้วยกัน ไม่มีใครพูดถึงฉากเลิฟซีนเลย “ไปรอเจอกันตรงนั้นสด ๆ พี่ฟิล์มก็เป็นมืออาชีพ ผมก็เคยผ่านเลิฟซีนหนัก ๆ มาแล้วในเวลากามเทพ”

แจมเล่าว่าการเล่นฉากเลิฟซีน ไม่ได้หนักหน่วงสำหรับตน แต่ความหนักหน่วงสำหรับแจมคือความนุ่มนวล อ่อนโยน เนื่องจากตัวเองมีอุปนิสัยที่แข็งและกระด้าง โดยมีฟิล์มช่วยปรับจนได้มู้ดที่เห็นในละคร

นอกจากนี้แจมยังเล่าอีกว่า ตนไม่กลัวเรื่องคนติดภาพจำ โดยแจมได้ให้เหตุผลว่า “ผมรู้สึกว่าการแสดงเราต้องรับให้ได้ทุกบทบาทอ่ะครับ จะเป็นบทคนบ้า บทหลุดโลก หรือบทชายรักชาย บทชายรักหญิง คือทุกอย่างมันมาด้วยพื้นฐานของความรู้สึก เราเล่นละคร ผมว่าเราจะเล่นบทไหน ด้วยความรู้สึกมันเล่นได้หมดอยู่แล้ว” พร้อมเผยว่ารู้สึกเซอร์ไพรส์ เมื่อชื่อตัวเองและชื่อละคร ‘คุณชาย’ ติดเทรนด์โลก

Advertisements

ทั้งนี้เมื่อโดนถามว่าละครเรื่องคุณชายเปลี่ยนชีวิตไหม แจมเปิดเผยว่า เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะเรื่องทัศนคติในการใช้ชีวิต โดยฟิล์มช่วยสอนว่าเราต้องเห็นใจคนอื่นให้มากขึ้น อีกอย่างที่เปลี่ยนไป คือการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ใช้เงินได้คล่องขึ้น ย่าอยากได้อะไรสามารถหาให้เขาได้

แจมเปิดใจว่า เมื่อก่อนเวลาย่าลำบาก มันต้องดีเลย์ออกไป เนื่องจากตนต้องใช้เวลาในการหาเงิน แต่ในช่วงนี้แจมเริ่มมีงานเยอะขึ้น มีรายรับเข้ามามากขึ้น ทำให้ซัพพอร์ตย่าได้มากขึ้น พร้อมระบุคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือย่า ซึ่งในปัจจุบันย่ากำลังป่วยเป็นโรคไตระยะสาม โดยแจมพยายามช่วยหาของบำรุงให้ย่าเสมอ.

แจมรชตะล่าสุด
ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow
แจมรชตะคุยแซ่บ
ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow
แจมรชตะ คุณย่า
ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow
แจมฟิล์ม
ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button