อาจารย์อ๊อด ขอโทษ ‘บุ๋ม ปนัดดา’ และ ‘หนุ่ม กรรชัย’ ลุยฟ้องเพจบิดเบือน

หลังจากที่ อาจารย์อ๊อด โพสต์เดือดถึง บุ๋ม ปนัดดา และ หนุ่ม กรรชัย ล่าสุดเจ้าตัวขอโทษแล้ว พร้อมเดินหน้าลุยฟ้องเพจบิดเบือนวันนี้ 13.00 น.
อ.อ๊อด วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กขอโทษ หนุ่ม กรรชัย และ บุ๋ม ปนัดดา หลังจากที่เมื่อวานนี้ เข้าใจผิดว่า อาจารย์อ๊อดถูกพาดพิงปมกัญชา จนทำให้โพสต์ต่อเนื่องถึงขนาดจะฟ้องร้องสองพิธีกรดังอย่างที่รายงานไปก่อนหน้านี้
อาจารย์อ๊อด ได้กล่าวขอโทษผ่านเฟซบุ๊กโดยระบุว่า “อ.อ๊อด ต้องขออภัย คุณปนัดดานะครับ ด้วยเพจโหนกระแส ลบข้อมูลอันเป็นเท็จออกแล้ว และพึ่งรู้ว่า คุณปนัดดามีหลายเพจ ขออภัยมา ณ ที่นี้” พร้อมกันนี้จะเข้าแจ้งความกลุ่มที่บิดเบือนในเวลา 13.00 ของวันนี้
นอกจากนี้ ยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงโปรเจ็คกัญชา ของ อาจารย์อ๊อด ด้วยว่า “โปรเจคกัญชากัญชงนี้นะครับ ที่ อ.อ๊อด เคยเป็นที่ปรึกษา รับเงินเดือน 50000 บาทตามข่าว และลาออกมาแล้ว ส่วนผู้รับเหมาและเจ้าของ ฟ้องไปมาหลาย 100 ล้าน ขึ้นศาลแพ่ง วันที่ 7 พ.ย. 65 อ.อ๊อด ก็โดนไปด้วยในฐานะเคยเป็นที่ปรึกษา(ตามข่าวโดนฟ้องรวมไปด้วยจริง แต่ชิลๆ) ว่ากันไปตามหลักฐานและกระบวนการ ฝั่งผู้รับเหมาก็ฟ้องก่อนด้วยซ้ำ…อ.อ๊อด มีคดี ที่โดนฟ้องเยอะครับ เลยงง ถถถถถถถถถถ คดีไหนวะ 555 ชิลๆ ไม่วิตกอะไร แต่ไอ้ที่รับงานมาโพสบิดประเด็นเนี่ย ต้องจัดการขบวนการนี้ มีเบอร์ อ.อ๊อด แต่ไม่โทรถาม… แต่ไม่โทรถามก่อนโพส เอาผ้าถุงไหม…….”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เพจโหลกแดง ที่มีผู้ติดตามทางทวิตเตอร์กว่า 2 แสนราย ที่กล่าวถึงว่า อาจารย์คนดังของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อ้างว่ากลุ่มของตนมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงแบบครบวงจรสามารถพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมได้
พร้อมกับกล่าวหาว่าอาจารย์คนดังรายดังกล่าว ไปหลอกนักลงทุน ให้มาลงทุนทำโรงงานสกัดสาร CBD โดยอาจารย์รายนี้เรียกค่าที่ปรึกษาเดือนละ 50,000 บาท สุดท้ายไม่สำเร็จ อาจารย์รายนี้ถูกนักลงทุนฟ้อง เรียกค่าเสียหาย 150 ล้าน พร้อมทั้งยังกล่าวหาว่าอาจารย์ดังรายนี้ใช้ความมีชื่อเสียงทำให้คนเชื่อถือ
ต่อมาทางเพจรายการ โหนกระแส ได้รายงานข่าวทวีตดังกล่าวของโหลกแดง ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่ได้ระบุชื่อถึงใครแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตรวจสอบล่าสุดโพสต์ข่าวดังกล่าวของทางเพจได้ลบไปแล้ว