ฉาวต่อ ปมกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ พบนายทหารเอี่ยวได้ดีเป็นนายพล
ทนายไพศาลพาผู้เสียหาย เงินกู้ซื้อ บ้านสวัสดิการทหาร ยื่นหนังสือถึงประยุทธ์ จี้ กองทัพบก ชดเชยค่าเสียหายบ้านสวัสดิการ แฉ 20 นายทหารเอี่ยว ได้ดิบได้ดีเป็นนายพล
เกาะติดข่าวเงินกู้ซื้อบ้านสวัสดิการกองทัพบกที่ไม่เป็นธรรม และเป็นชนวนเหตุทหารกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 โดยล่าสุด วันนี้ (19 ต.ค.65) ทนายไพศาล เรื่องฤทธิ์ พร้อมน.ส.ก้อย และ น.ส.เบิร์ด (นามสมมติ) ในฐานะผู้เสียหาย ที่เป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านพักขายให้กับกำลังพลกองทัพบก
เดินทางมายื่นหนังสือที่กระทรวงกลาโหม ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกองทัพบก เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการกู้สวัสดิการกองทัพบกเพื่อที่อยู่อาศัยของกำลังพล หลังจากมีผู้ประกอบการที่สร้างบ้านขายให้กับกำลังพลได้รับความเสียหาย และพบความไม่ชอบมาพากลการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมกองทัพบก 5%
นายไพศาล ทนายความ กล่าวว่า ตามที่กองทัพบกได้แถลงชี้แจงว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งลงโทษ งดบำเหน็จและปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีคนที่เกี่ยวข้อง ได้รับการเลื่อนยศและตำแหน่ง
อีกทั้งกองทัพบกยังระบุว่า โครงการกู้ยืมเงินออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ถูกระงับไปแล้วตั้งแต่ปี 64 แต่ในปี 65 ยังมีการเรียกรับเงิน 5% เรื่องนี้ต้องตอบคำถามให้ได้
เรื่องนี้เป็นประเด็นสังคมจึงต้องถามกลับไปที่กองทัพบก แม้จะระบุว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลและอยู่ในขั้นตอนของศาล แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ 5% กับจำนวนกำลังพลหลายร้อยนาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 30-40 ล้านบาท ใครจะรับผิดชอบอย่างไร
นายไพศาล กล่าวต่อว่า ที่ตนออกมาพูดเพราะกลัวว่ามันจะเกิดเหตุแบบที่โคราชอีก เนื่องจากมันมีจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง การลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องมีแค่การงดบำเหน็จ เอาออกจากตำแหน่งแค่นั้นเองใช่หรือไม่ ซึ่งกองทัพบกบอกว่าลงโทษตั้งแต่ปี 63 แต่ปัจจุบันแต่ละคนยังได้ยศ ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น บางคนได้ขยับเป็นนายพล บางคนเกษียณไปแล้ว บางคนลาออก
ทนายไพศาล ระบุว่า ที่ตนเองนั้นมีรายชื่อทหารเกี่ยวข้องประมาณ 20 รายชื่อ ที่มีจุดเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินชัดเจน อยากถามเช่นกันว่าบุคคลเหล่านี้ทำไมถึงยังได้เลื่อนยศและตำแหน่ง และจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนที่กองทัพบกยืนยันว่าไม่มีการหัก 5% ในการกู้ยืมเงินสวัสดิการกองทัพบกนั้น ทางทนายไพศาล เผยความคืบหน้าประเด็นดังกล่าวว่า จะมีการนำผู้เสียหายทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะถือเป็นการเรียกรับสินบนในขณะดำรงตำแหน่งหน้าที่ราชการ