เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าช่วยเหลือ 5 ชีวิตเหยื่อ นายทุนคลั่งลัทธิ หลอกทำงานใช้หนี้ พร้อมสาดน้ำร้อน ซ้อมเด็ก ล่าสุดจับตัวได้แล้ว
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อ 5 ราย แบ่งเป็น เยาวชน 2 คน และอดีตพยาบาลอีก 3 คน หลังถูกนายทุนคลั่งลัทธิล่อลวงและกักขังไว้ที่คอนโด แห่งหนึ่งย่านสะพานพระราม 8 ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางพลัด กทม.
หลังได้รับรายงานว่าญาติของตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายและถูกทำร้ายอย่างทารุณ พร้อมส่งรูปของเหยื่อที่สภาพถูกโกนผมและมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก จึงได้ประสานกำลังใช้หมายค้นเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา และพบเหยื่อนายทุนเจ้าลัทธิทั้ง 5 คนในห้อง
ตรวจสอบพบเหยื่อมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวกจากถูกสาดน้ำร้อนตามภาพถ่ายจริง พร้อมพบว่ามีการทำร้ายร่างกาย ด.ญ.วัย 10 ขวบ และ ด.ช. วัย 6 ขวบ หลังพบว่ามีรอยฟกช้ำที่บริเวณเบ้าตา ที่ซ้ำร้อยลูกตาของ ด.ช.วัย 6 ขวบมีรอยแดงด้วย
จากการสอบปากคำเหยื่อทำให้ทราบว่า ถูกผู้นำลัทธิบังคับให้ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับนายทุน อ้างเป็นแพทย์ลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น ทำงานสถานทูต โดยมีลูกน้อง 1 คน เป็นคนคอยมาควบคุม จากการตรวจสอบสภาพเหยื่อมีความผิดปกติ
เหยื่อ 3 คน เป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ลาออกมาร่วมทำธุรกิจกับนายทุนคลั่งลัทธิ และหลวกลวงเหยื่อด้วยการ ทำทีรวบรวมเงินไว้ที่นายทุนเมื่อธุรกิจเริ่มขับเคลื่อน พร้อมขู่ เช่นหลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ, ลูกค้าเรียกเงินคืน, ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง จากนั้นนายทุนยัดหนี้ทิพย์ให้กับเหยื่อ พร้อมหลอกอีกด้วยว่า รู้จักกับตำรวจจะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้ยอมทำงานใช้หนี้ตลอดกว่า 3 ปี และเข้าใจว่าพวกตนมีหนี้ 140 ล้านบาท ทั้งที่จริงๆแล้วถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สินไป
ทั้งสามถูกหลอกเงินไปกว่า 5,000,000 บาท ขณะนี้ได้นำตัวเหยื่อ และเด็กรวมทั้งห้าชีวิตเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตร. แล้ว
อย่างไรก็ดี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ได้เข้าจับกุม นายฮารุ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี หรือ ผู้นำลัทธิ ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น”
พร้อมด้วยนายตรีเพชรรัตน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ 506/65 ลงวันที่ 17 ต.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น”
