แม่ผู้ชนะหนูน้อยกล้วยไข่ โพสต์ระบายความในใจ แต่กระแสตีกลับ จนต้องลบโพสต์
ไม่จบ! แม่แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ ‘น้องกีว่า’ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความในใจ หลังดราม่าแม่รองอันดับหนึ่งคืนรางวัล เพราะคะแนนไม่โปร่งใส ลั่น! “คุณคงมั่นใจว่าลูกเราคงไม่ได้ที่ 1 เพราะคุณลงทุนไปเยอะ” แต่เจอชาวเน็ตเห็นต่าง พากันคอมเมนต์ว่า “บ้ง” จนต้องลบโพสต์
สืบเนื่องจากประเด็นดราม่า การประกวดหนูน้อยกล้วยไข่ ที่แม่รองอันดับ 1 ‘น้องอิงฟ้า’ ได้คืนรางวัลพร้อมพาลูกเดินลงจากเวที หลังผลตัดสินค้านสายตาคนทั้งจังหวัด ล่าสุด ‘แม่น้องกีว่า’ ผู้ชนะ ได้ออกมาเคลื่อนไหวหลังเรื่องเงียบไปได้ 1 สัปดาห์ ด้วยการโพสต์เหน็บอีกฝ่ายว่าพาล จนโดนทัวร์ลงเพียบ
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 แม่ของน้องกีว่า แชมป์หนูน้องกล้วยไข่ ได้โพสต์ถึงดราม่าวันตัดสิน และประเด็นที่แม่น้องอิงฟ้าคืนรางวัล ดังนี้
“จากการที่มีดราม่ากันเกิดขึ้นของน้องกีว่า ในการประกวดหนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร2565 มีข่าวต่างๆมากมายในตอนแรกกับคอมเมนส์ต่าง ๆ กระแสทางต่างลบของน้อง..
ทางแม่ของน้องขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงในส่วนของความรู้สึกที่เราก็อยากปกป้องลูกของเราเหมือนกัน #Saveน้องลูกคือความภูมิใจของฉันและฉันรอคอยเขามาทั้งชีวิต
1. เราเคารพในการตัดสินของท่านคณะกรรมการ ซึ่งทางเราขอยืนยันว่าเราไม่รู้จักท่านคณะกรรมการแต่ละท่าน เราไม่ได้เป็นเด็กเส้นหรือรู้จักคนมีชื่อเสียง และเป็นเพียงแม่ขายขนมจีบแป้งสด ซึ่งเป็นร้านรถเข็นริมทาง
2. เรื่องทรงผมทางเรารู้ว่าน้องทำผมไม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ในการประชุมเรื่องการแต่งกายกฎข้อบังคับคือเสื้อแขนกระบองผ้าซินพื้นเมือง แต่ทรงผมที่ประชุมได้ให้มีการเสนอทรงผม แต่ไม่มีใครพูดอะไรทางผู้จัดการงานก็สรุปเป็นขอความร่วมมือให้..ทำผมทรงฟาร่า..ให้เป็นในทางเดียวกัน
และในวันงานทุกคนเห็นว่าน้องทำผมเกล้ามา..ทำไมไม่ประท้วงกันตั้งแต่ตอนนั้นหรือแจ้งคณะกรรมการหรือผู้จัดงานให้น้องเดินแล้วตกรอบแรกไปเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นทางเราก็เต็มใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าทำผมมาไม่เหมือนคนอื่น แค่ลูกได้เดินขึ้นเวทีแค่รอบแรกก็ดีใจแล้ว
3. ลูกเราแค่ 5 ขวบไม่เคยเดินสายประกวด ประสบการณ์ก็ไม่มี ไม่เคยเข้าคอร์สการเดินแบบหรือการปรับบุคคลิกภาพ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจมาสายนี้ แต่ที่มาประกวดก็แค่หาประสบการณ์ สร้างความกล้าแสดงออก มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหา การควบคุมอารมณ์เด็ก 5 ขวบ
ทำได้ขนาดนี้ในความคิดเราน้องเก่งมาก เหนื่อยก็อดทน ไม่เคยบ่น แต่ลูกเราก็สู้มาถึงรอบสุดท้าย..คุณคงมั่นใจว่าลูกเราคงไม่ได้ที่ 1 เพราะคุณลงทุนไปเยอะ แต่ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปตามคาด..พาลค่ะพาล
4. เราไม่เคยคาดหวังว่าลูกเราต้องได้ที่ 1 แค่เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ก็มาไกลเกินฝันแล้ว แค่รอบ 10 คน ที่มีการตอบคำถามหลังจากลงเวทีเราบอกลูกว่า..กลับบ้านกันลูก พี่ ๆ เขาตอบกันเก่งมากเราไม่คิดว่าจะเข้ารอบ 5 คน ด้วยซ้ำ
5. คุณบอกว่าพอประกาศผลว่าน้องได้ที่ 1 มีแต่คนโห่กันทั้งงาน…เราขอให้คุณฟังดี ๆ ว่าเสียงโห่หรือเสียงปรบมือหรือเสียงยินดีให้กำลังใจน้อง..แต่ท่านผู้ชมให้กำลังเสียงปรบมือดังตั้งแต่รอบตอบคำถามแล้ว..ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องประสาทหูหรือเปล่าค่ะ
6. ลูกเราก็มีการซ้อมเดินการตอบคำถามแต่เป็นเพียงการซ้อมกันกันเองไม่ได้เข้าคอร์สเป็นพัน..ทำเท่าที่เราทำได้คำถามก็เป็นไหวพริบล้วน ๆ เป็นการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าของเด็ก 5 ขวบ
ลูกเราไม่ได้ท่องจำเพราะไม่รู้คำถาม..เพราะคำถามที่เราซ้อมก็มีแต่ซองคำถามนั้นเด็กคนอื่น ๆ จับซองได้ไป คำถามนี้เราก็คิดไม่ถึง เราถือว่าลูกเราเก่งมากแล้วในสายตาเรา..เราภูมิใจในตัวลูกเรามาก
สุดท้ายนิทานเรื่องนี้สอนให้อยู่ว่าอย่าคาดหวังอะไรมากเกินไป เพราะถ้าไม่เป็นไปตามที่หวังมันจะรู้สึกเจ็บมากและจงยอมรับในผลของการกระทำที่มันเกิดขึ้นเพราะข้อผิดพลาดย่อมสามารถแก้ไขได้เสมอ..จงให้กำลังไม่ใช่กดดัน
ยอมรับข้อผิดพลาดแล้วแก้ไข ยอมรับกับความเป็นจริงแล้วสู้ต่อไป..จงอย่าตัดสินใจคนอื่นเพียงแค่ความคิดของคุณเพียงฝ่ายเดียว เหรียญมันมี 2 ด้าน อย่าตัดสินความข้างเดียวถ้าคุณยังไม่ได้ฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง และที่สำคัญเราไม่ใช่จุดศูนย์กลางของโลกใบนี้..”
หลังจากที่แม่น้องกีว่า แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ โพสต์ข้อความดังกล่าวไปได้ไม่นาน ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาร่วมแชร์และคอมเมนต์กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับที่แม่น้องกีว่าออกมาโพสต์ ทั้งที่เรื่องจบไปได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว
ในขณะที่หลายฝ่ายระบุ “แม่บ้ง” และ “มีแม่เมื่อพร้อม” พร้อมให้ความคิดเห็น อาทิ “อีกฝ่ายทำดีกว่าจริง ๆ”, “เขาด่ากรรมการไม่ใช่แม่”, “รู้ว่าลูกทำผมผิด ก็ไม่ควรได้รางวัลแล้ว” และ “เข้าข้างแม่น้องอิงฟ้าค่ะ”
สำหรับดราม่าการตัดสินหนูน้อยกล้วยไข่ จะมีการเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ สามารถรออัปเดตไปพร้อมกับทีมงานเดอะไทเกอร์ได้เร็ว ๆ นี้.
@yingbird 🙄เลิส #ดราม่า #ค้านสายตา #ล็อคมง #สงสารเด็ก #การประกวด #กล้วยไข่เมืองกําแพง #กําแพงเพพชร