ข่าวข่าวภูมิภาค

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นฟ้องสำนักพุทธตรวจสอบ ภิกษุณีปลายขายสบู่ 199 บาท

ศรึสุวรรณ ยื่นเอกสารร้องสำนักพุทธให้ตรวจสอบ ภิกษุณีปลายขายสบู่ 199 บาท เผยใช้แล้วได้รับพลังท่านยม และ ท้าวเวรสุวรรณ ช่วยเสริมดวง

นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าตนได้เดินทางไปยัง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและมหาเถรสมาคมฯ เพื่อร้องตรวจสอบ ภิกษุณีปลายขายสบู่ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมก่อนหน้านี้

สืบเนื่องจากกรณีที่ หมอปลาย หรือ ภิกษุณีปลาย หรืออดีตหมอปลายขายสบู่ สบู่น้ำมนต์ ราคาก้อนละ 199 บาท ช่วยเสริมโชคลาภ หนุนดวงชะตา และช่วยให้ผู้ใช้ได้รับพลังจากท่านยม และท้าวเวชสุวรรณ อย่างเต็มที่

นายศรีสุวรรณ มองว่า “การกระทำดังกล่าว เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อของผู้คน ที่อาจอยู่ในภวังค์แห่งความไร้หนทางออกของชีวิต หรือคนโง่เขลาเบาปัญญา เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า “การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ…การกระทำของพวกเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้วโดยที่แท้ การกระทำของพวกเธอนั่น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อความเป็นอย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว”(พระไตรปิฎก เล่มที่ 2 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 2 มหาวิภังค์ ภาค 2)

หมอปลาย ทำนาย 2565 ครึ่งปีหลัง
ภาพจาก Facebook Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ

นอกจากนั้น การกระทำดังกล่าวยังอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนศีล 311 ข้อของภิกษุณี ในบทนิสสัคคิยปาจิตตีย์ ในข้อ 46 ข้อ 47 และข้อ 48 ที่ทรงบัญญัติมิให้สมณะห้ามรับเงินทอง ห้ามซื้อขายด้วยเงินทอง และห้ามซื้อขายโดยใช้ของแลก เป็นต้น แม้ที่ผ่านมาภิกษุณีสุทัสสนาจะอ้างว่า ตนเองบวชในประเทศศรีลังกา มีใบรับรองถูกต้องก็ตาม แต่เมื่อมาจำพรรษาอยู่ในประเทศไทยต้องเคารพและอยู่ภายใต้กฎหมายและกฎของสงฆ์ในไทยด้วย เฉกเช่นชาวต่างชาติที่ถือสัญชาติประเทศอื่น หากเข้ามาท่องเที่ยวหรืออยู่ในประเทศไทย หากทำผิดก็ต้องถูกกฎหมายหมายของไทยลงโทษเช่นเดียวกัน ดังนั้นการเป็นผู้ทรงศีลเป็นภิกษุณี แต่กลับออกคลิปโปรโมทสินค้า เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะเงินทอง ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่เป็นการถูกต้องกับบัญญัติของสงฆ์แต่หากภิกษุณีดังกล่าวอยากขายสินค้าต่างๆต่อไปก็ควรลาสิกขาไปจากความเป็นสมณะเสีย

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานส่งเป็นหนังสือร้องเรียนไปยังมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนพระธรรมวินัยดังกล่าวโดยเด็ดขาดต่อไป และหากเพิกเฉยต่อกรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ปอ.157 ได้นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button