เคาะแล้ว “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 100 บาท ถึงสิ้นปี 2565
ครม. ขยายเวลาสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้จนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบของวิกฤติราคาพลังงานที่พุ่งสูง
วันที่ 13 กันยายน 2565 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคาะขยายมาตราการรับสิทธิส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม LPG สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน จากเดิมสิ้นสุดระยะเวลาโครงการในเดือนกันยายน 2565 เริ่มขยายเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงสิ้นปีวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นจำนวนเงินคนละ 100 บาทต่อ 3 เดือน จากเดิมให้เพียงคนละ 45 บาทต่อ 3 เดือน เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายของประชาชนจากวิกฤติราคาพลังงานค่าก๊าซหุงต้มแอลพีจีและค่าเอฟทีไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น
1. มาตรการช่วยเหลือด้านราคาก๊าซหุงต้ม LPG
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือด้านราคาของก๊าซหุงต้มแอลพีจีในผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้
1. สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้น้อยรับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มสูงสุด 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงสิ้นปี 2565
2. ร้านค้า หาบเร่ หรือแผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน ได้รับส่วนลดค่าก๊าซแอลพีจี (LPG) สูงสุด 100 บาท ต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. – สิ้นปี 65
3. มีการทบทวนกำหนดราคาค่าก๊าซหุงต้ม LPG ให้อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้วันแรก 1 ตุลาคม 2565
2. มาตรการบริหารราคาน้ำมันดีเชล
สำหรับมาตรการราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล จะเป็นการใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื่อเพลิง ระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565 เพื่อตรึงระดับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 กันยายน 2565 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้าสูงสุด 315 บาทต่อครัวเรือน และเงินคืนค่าน้ำไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งทั้งการขยายสิทธิรับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มในผู้ถือบัตรคนจนและเงินคืนค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำ เป็นโครงการช่วยเหลือวิกฤติราคาพลังงานที่เพิ่มสูงทั่วโลก โดยหวังจะชะลอค่าใช้จ่ายก๊าซหุงต้มแอลพีจีค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ส่วนจะมีการขยายโครงการส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มนับจากนี้อีกหรือไม่ต้องรออัปเดตจากทางครม. อีกครั้งครับ