อัยการ เผยคดี ‘บอส กระทิงแดง’ เสพโคเคน หมดอายุความแล้ว
อัยการ เผยความคืบหน้าคดี บอส กระทิงแดง ว่าจากการปรับประมวลกฎหมายใหม่ทำให้คดี เสพโคเคน หมดอายุความแล้ว
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยความคืบหน้ากรณี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง ลูกกระทิงแดง กรณีเสพโคเคน
ว่าสืบเนื่องจาก ผลจากการใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.64 ที่ให้ยกเลิก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ทำให้คดีของบอส กระทิงแดง ในข้อหาเสพโคเคนขาดอายุความตามกฎหมาย เนื่องจากพนักงานอัยการตั้งทีมรื้อคดีอาญาขึ้นใหม่ โดยที่มีนายอิทธิพร แก้วทิพย์อธิบดีอัยการ สำนักงานคอีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงานและมีตนเป็นเลขาคณะทำงาน ได้แจ้งดำเนินคดีเพิ่มข้อหาเสพโคเคน
ต่อมาหลังจากแจ้งดำเนินคดีนั้น นายวรยุทธก็ได้หลบหนีไป จนศาลมีหมายจับซึ่งมีกำหนดอายุความ 10 ปี เป็นไปตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี พ.ศ 2522 มาตรา 58 ที่ระบุว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพยาเสพติดโคเคน ( ยาเสพติดประเภท 2) หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามมาตรา 91 คือจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี จึงทำให้คดีดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี
ทั้งนี้คดีดังกล่าวได้เกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 อายุความก็จะขาดในวันที่ 3 ก.ย.2565 ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่าต่อมาได้มีประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ โดยยกเลิกพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ทั้งหมด แล้วเขียน หมวดว่าด้วยเสพยาเสพติดประเภท 5 ใหม่ไว้ในมาตรา 104 ของกฎหมายดังกล่าวระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) หากผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ตามมาตรา 162 คือมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
ผลคือ ทำให้อายุความคดีจาก 10 ปี ลดเหลือ 5 ปี ทำให้คดีของนายวรยุทธในข้อหาเสพโคเคนหมดอายุความแล้ว
ปัจจุบันคดีของ บอส กระทิงแดง เหลืออยู่เพียงข้อหาเดียวคือ การขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 10 ปี และมีอายุความ 15 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2570