ข่าวข่าวอาชญากรรม

ตำรวจรวบ ‘เจ๊ทิบ พิมรี่พายเมืองลาว’ พร้อมแฟน ข้อหาฉ้อโกงตามหมายลาว

ตำรวจเข้าจับกุม เจ๊ทิบ พิมรี่พายเมืองลาว ผู้ตามหาฉ้อโกงและการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงตามหมายจับลาว พร้อมแฟน คาโรงแรมในประเทศไทย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม นางพอนทิบ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สัญชาติลาว อาชีพนักธุรกิจ หรือ เจ๊ทิบ เจ้าของฉายา พิมรี่พายเมืองลาว พร้อมกับ ท้าวอานุสิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สัญชาติลาว ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านคลองห้า จ.ปทุมธานี หลังทั้งสองถูกทางการลาว ออกหมายจับคดีฉ้อโกงทรัพย์ และการคิดอัตราดอกเบี้ยสูง

Advertisements

เมื่อตำรวจถึงโรงแรมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่เคาะประตูห้องและพบทั้งคู่อยู่ในสภาพเพิ่งตื่นนอน และได้อ่านหมายศาลให้ฟัง และเข้าตรวจค้นห้องพัก พบอาหารจากร้านสะดวกซื้อ 2 ถุงใหญ่ และกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีก 1 ใบ

สำหรับพฤติการณ์ของทั้งสองคนนี้ คือเป็นแฟนกัน ทำธุรกิจหลายอย่างที่ สปป.ลาว ทั้งขายทอง เพชร และขายของออนไลน์ และมีการกล่องสุ่มคล้ายกับของ พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังของไทย หลังขายของออนไลน์จนโด่งดัง ก็ได้เชิญชวนเล่นแชร์ โดยหลอกว่าจะให้ค่าตอบแทนสูงร้อยละ 30-50 ต่อเดือน

จาการตรวจสอบพบว่า เจ๊ทิบยังเปิดให้แทงหวยออนไลน์ ธุรกิจของนางทิบได้รับความนิยมมากใน สปป.ลาว จากความรวย ความสวย นางทิบยังเป็นคนจิตใจดีช่วยเหลือชาวบ้าน สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

จนกระทั่งช่วงเดือนมิ.ย. พบว่า ลูกค้าที่ลงทุนกับเจ้ทิบไม่ได้รับเงินตามตกลง จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจเวียงจันทน์ ระบุว่า ถูกนางพอนทิบ อายุ 30 ปี ฉ้อโกงเงินฝากไป นำไปสู่การออกหมายจับและพบว่าทั้งสองหนีมาไทยพร้อมกับเงินจำนวนมาก

Advertisements

ด้าน นางพอนทิบ กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนขอปฏิเสธทุกอย่าง ตนไม่ได้โกงเงินใคร เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เงินจำนวน 400 ล้านบาท ที่มีกระแสว่าตนเอาหนีข้ามประเทศมาด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่มีจริง เพราะเงินจำนวนมาก ตนไม่สามารถแบกข้ามประเทศมาได้ และถ้าหากจะโอนเงินข้ามประเทศครั้งหนึ่งในจำนวนเงินที่มากก็จะต้องใช้เอกสารมากมายซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ยืนยันว่าเงิน 400 ล้านบาทไม่มีจริง ทุกคนใส่ข่าวไปเอง ตนไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น มีเพียงจำนวนหนึ่งที่ใช้สำหรับหมุนเวียน ถ้าหากถามว่าตอนนี้แชร์ตนล้มหรือไม่ ก็ตอบได้ว่า แชร์ล้มแล้ว ส่วนสาเหตุที่หนีมาที่ประเทศไทย เพราะว่าตนถูกขู่ทำร้าย มีคนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ตนเลยขอมาตั้งหลักที่ประเทศไทยก่อน ยืนยันไม่ได้มาที่ประเทศไทยเพื่อที่จะหนีคดี แต่มาเพราะต้องการมาตั้งหลักเท่านั้น ตอนนี้พร้อมจะชี้แจงและรับผิดชอบทุกอย่างแล้ว

 

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button