กทม. แจงหลัง ผู้ว่าฯคนก่อน ปฏิเสธไม่รับ นักโทษขุดลอกท่อ
กทม. ออกโรงชี้แจงหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เผย ผู้ว่ากรุงเทพคนก่อน ปฏิเสธไม่รับ นักโทษขุดลอกท่อ ชี้ห่วงโควิดระบาด
นายปิยะ พูดคล่อง ผู้อำนวยการสำนักการคลัง ออกมาชี้แจงหลังจากที่ รมว.ยุติธรรม ทำหนังสือถึงนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานครคนใหม่ ขอนำนักโทษขุดลอกท่อ เพื่อช่วยระบายน้ำท่วม พร้อมระบุว่าเคยยื่นเสนอผู้ว่าคนก่อนแล้ว แต่ถูกปฏิเสธ
โดยทาง ผู้อำนวยการสำนักการคลัง ชี้แจงประเด็นนักโทษช่วยขุดลอกท่อว่า เดิมก่อนหน้าปี 2560 กทม. ได้ว่าจ้างนักโทษ กรมราชทัณฑ์ มาโดยตลอด ซึ่งใช้ระเบียบตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการพัสดุ ฉบับ พ.ศ.2538 ต่อมาปี 2560 มีการออก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ ฉบับ พ.ศ.2560 ให้หน่วยงานราชการทั่วประเทศใช้
ซึ่งใน พ.ร.บ.ฉบับดังดล่าวระบุว่า กรมราชทัณฑ์ไม่มีอาชีพรับจ้าง ทำให้ไม่สามารถจัดจ้างนักโทษจากกรมราชทัณฑ์มาล้างท่อระบายน้ำของกทม.ได้
แต่เมื่อปี 2563 กระทรวงคลังออกกฎหมาย เปิดช่องให้สามารถจ้างนักโทษจากกรมราชทัณฑ์ได้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ในสมัยนั้น จึงนำข้อกฎหมายดังกล่าวมาประชุมพิจารณากันอีกครั้ง
โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตต่างๆ พิจารณาและอนุมัติจัดจ้างเป็นโครงการๆไป เมื่อเข้าสู่กระบวนการจัดจ้างโครงการล้างท่อก่อนหน้าฝน กรมราชทัณฑ์ กลับมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด
กรมราชทัณฑ์ จึงแจ้งกลับมาว่า ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขสัญญาจัดจ้างได้ เพราะกรมราชทัณฑ์ต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด อาจจะมีผลต่อการส่งมอบงานไม่ได้ตามสัญญา จึงส่งหนังสือขอไม่รับงาน ลงชื่อ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สมัยนั้น ลงวันที่ 19 พ.ค.63
ด้าน นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า กทม.ทำการจัดจ้างล้างท่อระบายน้ำทุกปี แต่การจะลอกท่อระบายน้ำในกรุงเทพฯ ที่มีความยาวทั้งสิ้นกว่า 6 พันกม. ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นกทม.จึงเลือกจัดจ้างล้างท่อในจุดเสี่ยงที่มีน้ำท่วมทุกปี สามารถล้างท่อได้ 1 ใน 3 ของความยาวท่อทั้งหมด แต่เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อครั้งที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกที่ 130 มม.ต่อชม. ซึ่ง กทม.มีศักยภาพเพียง 60 มม.ต่อชม. จึงทำให้น้ำต้องรอการระบาย