สองผัวเมียผลิตไส้กรอกมรณะ ล่าสุด ! ถูกรวบแล้วที่ชลบุรี
สองผัวเมียผลิต ไส้กรอกมรณะ ที่มีข่าวเด็กกินเข้าไปแล้วเกิดพบอาการผิดปกติจนต้องหามส่ง รพ. ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ บุกรวบตัวที่ชลบุรี
จากกรณีเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฎ ข่าวพบผู้บริโภคซึ่งเป็นเด็กหลายรายต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากการรับประทานไส้กรอกและเกิด ภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย (methemoglobinemia) อีกทั้ง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 Mon News Agency สื่อท้องถิ่นในรัฐมอญรายงานว่า
เด็กในเมืองพญาตองซู เขตเมืองจ่ออินเซกจี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ถูกนำส่งโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 16 ราย เสียชีวิต 1 ราย หลังกินไส้กรอกที่ผลิตในประเทศไทย (ปรากฏตามลิงก์ข่าว https://transbordernews.in.th /home/?p=30572)
ล่าสุด ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบแหล่งจำหน่ายและสืบสวนขยายผลจนทราบถึงแหล่งผลิต และในวันเดียวกัน (2 ก.พ.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้นำหมายค้นดังกล่าวเข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 6/66 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี จากการตรวจค้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นสถานที่ผลิตอาหารจากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ โดยไม่ได้รับอนุญาต และรวมถึงผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคข้างต้น
อีกทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยังมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่มีเลขสารบบอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงได้ทำการตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องจักร จำนวน 32 รายการ มูลค่ากว่า 700,000 บาท โดยจากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า นายสินาฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และ น.ส.รักทวี (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสามี-ภรรยา เป็นผู้ร่วมกันผลิตอาหารที่ผิดกฎหมายดังกล่าว
โดย นายสินาฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ความผิดฐาน “ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม, ร่วมกันผลิตเพื่อจำหนายอาหารโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบกิจการผลิตอาหารโดยสุขลักษณะของสถานที่ผลิตอาหารไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด”
ทั้งนี้ ต่อมาได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ จำนวน 4 รายการ ไปทำการตรวจสอบเพื่อหาสารปนเปื้อน ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์พบว่า มีใช้วัตถุเจือปนอาหาร กรดเบนโซอิก ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารสุข (ฉบับที่418) พ.ศ.2563 ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่2) ไม่กำหนดปริมาณการใช้ จึงต้องมาขอความเห็นชอบการใช้ ซึ่งไม่ได้ขอความเห็นชอบแต่อย่างใด
ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รายการ จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตามมาตรา 6(5) มีโทษตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท อีกทั้งยังพบว่าผลิตภัณฑ์ “หมูยอ แม่จันตรี สูตรโบราณ” และ “หมูยออุบล ดั้งเดิม Premium” มีการตรวจพบยีนจำเพาะของไก่ แต่ไม่พบยีนจำเพาะของหมู จึงเข้าข่ายเป็นอาหารที่มีฉลากเพื่อลวง จัดเป็นอาหารปลอม ตามมาตรา 27(4) ฝ่าฝืนมาตรา 25(2) มีโทษตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันถึงหนึ่งแสนบาท
จากการสืบสวนทราบว่า นายสินาฤทธิ์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บริเวณ ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวและเฝ้าสังเกตการณ์ จนเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสินาฤทธิ์ฯ ได้ที่บริเวณดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วน น.ส.รักทวีฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาที่ กก.4 บก.ปคบ. เช่นเดียวกัน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ที่มา : Facebook ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค