สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

Pacharaเผยแพร่: 19 เม.ย. 2565 16:12 น.| อัปเดต: 19 เม.ย. 2565 16:15 น.

102

ราคาน้ำมันโลก ล่าสุด — ภาพ Zbynek Burival / Unsplash

คาดการณ์สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 18-22 เมษายน 2565 โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดการณ์สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 18-22 เมษายน 2565 ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าในสัปดาห์ล่าสุดผันผวน ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น

Advertisements

โดยราคาน้ำมันดิบ Ice Brent อยู่ที่ 105.90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 2.18 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และเวสท์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.37 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อยู่ที่ 101.52 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปดูไบปรับตัวลดลง 0.27 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อยู่ที่ 100.99 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทั้งเกิดจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศลิเบีย หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติ National Oil Corp. (NOC) ประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งมอบน้ำมันดิบ จากเหตุประท้วง

ทั้งนี้ลิเบียผลิตน้ำมันดิบในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 1.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 70,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งจับตาจีนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองเซียงไฮ้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนนี้ และธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศจะลดสัดส่วนสำรองเงินฝากขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio: RRR) ลงร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยล 8.1 ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนนี้ โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจประมาณ 8.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวกปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสทของรัสเซีย ในช่วง 1-15 เมษายน 2565 ลดลง 81,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับการผลิตในเดือนมีนาคม 25 65 มาอยู่ที่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน สหภาพยุโรป (EU: 27 ประเทศ) กำลังดำเนินการคว่ำบาตรด้านพลังงานรัสเซียเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ที่จะเกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว

ส่วนปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สู่ระดับร้อยละ 2.25 -2.50 ภายในสิ้นปี 2565 นี้ จากปัจจุบันที่ร้อยละ 0.25-0.50 โดยในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 3-4 พฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีวาระพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกร้อยละ 0.50