ประชาชนใน เซี่ยงไฮ้ ประท้วง หลังจากที่เผชิญปัญหาอาหารขาดแคลน
จากคำสั่งล็อกดาวน์ใน เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ทำให้ประชาชนออกมา ประท้วง หลังจากที่ประชาชนเผชิญปัญหาอาหารขาดแคลน
เมื่อวันที่ 10 เมษายน สำนักข่าว นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ประชาชนชาวจีนในนครเซี่ยงไฮ้จำนวนมากได้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลผ่านระเบียงบ้านของตนเอง เรียกร้องให้ทางรัฐนำอาหารมาส่ง หลังจากที่นครเซี่ยงไฮ้อยู่ในช่วงล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้วยมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของทางการจีนนั้น ได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนก้าวออกจากประตูบ้านเลย แม้ว่าจะเพื่อทิ้งขยะ หรือ การพาสุนัขออกไปเดินเล่นก็ตาม รวมถึงซื้ออาหาร ทั้งนี้ประชาชนจะออกนอกบ้านได้ ในการเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดเท่านั้น ซึ่งวิธีเดียวที่ประชาชนจะได้อาหารคือต้องรอให้รัฐบาลนำอาหารมาส่ง หรือ สั่งอาหารเองเท่านั้น
โดยสำนักข่าว ไฟแนนเชียล ไทมส์ ได้สัมภาษณ์หญิงที่อาศัยในนครเซี่ยงไฮ้ ว่า ตลอดที่นครเซี่ยงไฮ้ที่มีประชากรกว่า 26 ล้านคน ใช้มาตรการล็อกดาวน์ เธอได้รับอาหารจากทางรัฐบาลเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
Picture of the govt food handout my pregnant friend received last night in Qingpu district of Shanghai. Four days ago she got milk, TCM and a small bag of rice.
Folks in Shanghai: what have you received? What district are you in? How many mouths have you got to feed? pic.twitter.com/pwt8AfFeX7
— Edward Lawrence (@EP_Lawrence) April 8, 2022
ขณะที่นาย จาเรด เนลสัน นักกฎหมายที่พำนักอยู่ในจีนเล่าว่า เขาเลือกจะใช้วิธีสั่งอาหารเอง แต่ด้วยจำนวนประชาชนที่ต้องกักตัวเป็นจำนวนมาก และจำนวนคนขับบางส่วนที่ต้องกักตัว ทำให้จำนวนคนส่งอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
ด้านทางการจีนได้ส่งโดรนขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่ง พร้อมวอนให้ประชาชนหักห้ามจิตใจของตนเอง ด้วยการไม่เปิดหน้าต่าง นอกจากนี้ทางการจีนยังได้ยอมรับกับสำนักข่าว BBC ว่า ขณะนี้พวกเขากำลังประสบปัญหาในการส่งเสบียงอาหารให้ประชาชนจริง
ประเทศจีนนั้น ถือเป็นประเทศที่มีมาตรการกับโควิดต่างออกไป โดยหลายชาติมุ่งเน้นในการใช้มาตรการอยู่ร่วมกับโควิด ขณะที่จีนยังคงพยายามกดจำนวนผู้ป่วยโควิดให้เป็นศูนย์ ซึ่งเซี่ยงไฮ้อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม