ข่าวข่าวภูมิภาค

พ่อเด็กเดินขอน้ำซุป เมา ซ้อมเมีย ลวนลามเพื่อนบ้าน ปมสลดหลังเงินบริจาคเข้าบัญชีกว่า 6 แสน

เหตุเกิดหลังได้เงินบริจาคกว่าครึ่งล้าน พ่อเด็กเดินขอน้ำซุป ออกลายหลังเงินบริจาคเข้าบัญชีเมียกว่า 6 แสน พฤติกรรมงามหน้า หวังปลุกปล้ำเพื่อนบ้าน ไม่สำเร็จกลับไปซ้อมเมีย

วานนี้ (4 เม.ย.65) ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณเพิงพัก หมู่ 4 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยหลังจากเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ พบหญิงสาวรายหนึ่งสภาพใบหน้าปูดบวม ศีรษะแตก ต่อมาทราบชื่อ น.ส.สนิท อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นมารดาของ เด็กขอน้ำซุป ซึ่งเคยเป็นกระแสดังบนโลกโซเชียล

หลังเจ้าหน้าที่สอบถามสาเหตุ แม่เด็กเดินขอน้ำซุป เล่าว่า นายพรพรม สามี คือ คนที่ทำร้ายเธอ โดยใช้ตะหลิวตี ชกต่อยตนหลายครั้ง เหตุโมโหและหาว่าตนจะมีชู้ ซึ่งไม่เป็นความจริง เท่านั้นไม่พอ น.ส.แต๋น อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน ได้มาให้ข้อมูลและกล่าวหา นายพรพรม ด้วยว่าจะข่มขืนตน ก่อนตีเมีย โดยนายพรพรม หรือ พ่อเด็กขอน้ำซุป มีอาการเมาก่อนบุกเข้ามาในบ้านของตนที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นพยายามใช้กำลังปลุกปล้ำ แต่ตนต่อสู้ กระทั่งวิ่งหนีขอความช่วยเหลือจากร้านค้าและต่อมาก็ได้ข่าวว่ามาตบต่อยตีเมียดังกล่าว

สุดท้าย นายพรพรม ถูกตำรวจเข้าจับกุมในสภาพที่เมาสุราหนัก พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวขึ้นรถไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองชลบุรี

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าสภาพครอบครัวเด็กขอน้ำซุป เงินบริจาคเข้าบัญชีแม่ พ่อเอาไปกินเหล้า

“นายทศพร ยั่งยืน” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยเล่าถึงสภาพครอบครัวของ 2 สามีภรรยา ซึ่งเป็นพ่อแม่เด็กหญิงที่เดินไปขอน้ำซุปจากร้านก๋วยเตี๋ยวจนเป็นข่าวโด่งดัง หลังจากคลิปของหนูน้อยเผยแพร่ไป ผู้ใจบุญจำนวนมากโอนเงินบริจาคมาหวังช่วยเด็กหญิงให้มีสภาพความเป็อยู่ที่ดีขึ้น มีทั้งนำสิ่งของมามอบให้ รวมทั้งโอนเงินบริจาคเข้าบัญชี น.ส.สนิท ผู้เป็นแม่ เป็นเงินทั้งหมด 632,338 บาท แต่พ่อเด็กหญิงก็เอาเงินไปกินเหล้าจนเมาเละเทะ กระทั่งก่อเรื่องขึ้นมา

อย่างไรก็ตามจากนี้เป็นต้นไป ตนและผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งตำรวจ จะแจ้งกับ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ชลบุรี เป็นพยานจะไปอัปเดตเงินในบัญชีว่ามีเท่าไหร่แล้วจะแบ่งเอาไว้สร้างบ้าน ซึ่งตอนนี้ได้เช่าที่วัดนาเขื่อนไว้แล้ว

ที่เหลือก็จะแบ่งเป็นทุนการศึกษาของเด็กหรือลูก 3 คน และจะแบ่งอีกส่วนเอาให้ไว้ใช้ในส่วนประจำวันครอบครัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ย้ำชัดต้องบังคับให้ทำแบบนี้ เพราะไม่เช่นนั้นเงินส่วนนี้อาจะไม่เหลือเลยได้

อ้างอิงข้อมูล : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button