‘อ.เจษฎา’ เตือน ใช้ถังดับเพลิงทำเอฟเฟคควัน อันตรายถึงตาย
จากคลิปไวรัลที่มีเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่ง ใช้ถังดับเพลิงทำเอฟเฟคควัน ล่าสุด อ.เจษฎา เตือนอันตรายถึงแก่ชีวิต
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ใช้ถังดับเพลิงสีแดง เพื่อใช้ทำเอ๊ฟเฟ๊คแบบดรายไอซ์ หรือ น้ำแข็งแห้ง ตอนประธานกล่าวจบ เรียกเสียงฮาไปก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เตือนว่า “เอาถังดับเพลิง มาทำเอฟเฟค ต้องระมัดระวัง อย่างสูงนะครับ”
พร้อมระบุว่า “ประเด็นคือ คลิปนี้ไม่ได้เขียนให้รายละเอียดเกี่ยวกับถังดับเพลิงที่ใช้ ไม่ได้หันด้านหน้าของถังมาให้ดูว่าเป็นชนิดที่ใส่สารอะไรไว้ จึงต้องระมัดระวังอย่างสูง ถ้าใครดูแล้วคิดจะเอาไปทำตามนะครับ
ปกติถังดับเพลิงที่เราใช้กันตามบ้านเรือนนั้นจะมีหลายประเภท ซึ่ง “ถังสีแดง” ที่เราคุ้นเคยกันนั้น ส่วนใหญ่มันจะเป็นชนิด “ผงเคมีแห้ง” สำหรับดับไฟได้หลากหลายที่มา ไม่ว่าจะเป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงของแข็ง เพลิงไหม้จากของเหลวติดไฟและก๊าซติดไฟ เพลิงไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้า เพลิงไหม้จากโลหะไวไฟ เป็นต้น
หรือถ้าเป็น “ถังสีเขียว” ก็มักจะเป็นชนิด “น้ำยาเหลวระเหย” สามารถดับไฟได้หลากหลายที่มาเช่นกัน โดยมีข้อดีที่เมื่อฉีดใช้งาน จะไม่ทิ้งคราบสกปรก ไม่ทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย เหมือนชนิดผงเคมีแห้ง
แต่ยังมีถังดับเพลิงชนิดหนึ่งที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) บรรจุภายใน “ถังสีแดง” โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ฉีดออกมานั้น จะเป็นไอเย็นจัด (คล้ายน้ำแข็งแห้ง ซึ่งก็คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรูปของแข็ง) ลดความร้อนของไฟได้ และยังไม่ทิ้งคราบสกปรกด้วย ถังดับเพลิงชนิดนี้จะมีจุดสังเกตที่ “ปลายกระบอกฉีด” จะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
ดังนั้น เมื่อดูจากคลิปแล้ว ก็สามารถอนุมานได้ว่า เจ้าหน้าที่หญิงท่านนั้น ใช้ถังดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในการเอามาทำ effect ประกอบงานพิธีเปิด ซึ่งถ้าใครคิดจะทำตาม ก็ห้ามเอาถังดับเพลิงชนิดเคมีผง มาใช้เด็ดขาดนะครับ จะเป็นอันตรายต่อผู้คนได้ และถึงแม้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมีอันตรายต่ำ แต่ก็อย่าลืมว่า “ห้ามนำมาใช้ในพื้นที่ปิด” ดังเช่น ห้องประชุมขนาดเล็ก เด็ดขาดครับ
ควรใช้ในพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้ หรือกลางแจ้งเท่านั้น เพื่อให้เกิดการกระจายตัวออกของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก๊าซนี้ ถ้าสูดลมหายใจเข้าไปมากเกินไป จะเกิดอาการขาดออกซิเจนได้ เป็นอันตรายร้ายแรง อาจถึงแก่ชีวิตได้ด้วย
จริงๆ ที่ควรทำมากกว่า ก็คือควรจ้างมืออาชีพด้านการทำเอฟเฟค ที่มีประสบการณ์ ความชำนาญ และรู้กฎความปลอดภัยในเรื่องนี้ มาเป็นผู้ดำเนินงานดีกว่านะครับ”