การเงิน

คนละครึ่งเฟส 4 ล่าสุด ขยายเวลาใช้ 3 เดือน ยืนยันสิทธิ 14 ก.พ. เริ่มใช้ 21 ก.พ.

คนละครึ่ง เฟส 4 ล่าสุด เปิดรายละเอียด ขยายเวลาใช้เป็น 3 เดือน ยืนยันสิทธิ 14 ก.พ. เริ่มใช้ 21 ก.พ. คนใช้เก่า-ใหม่ รีบเช็คด่วน

คนละครึ่งเฟส 4 ล่าสุด วันนี้ (18 ม.ค.65) “นายสันติ พร้อมพัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีแผนที่จะปรับเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายสำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จากเดิมที่กำหนดวงเงินใช้จ่ายที่ 1,500 บาทต่อโครงการ ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มระยะเวลาการใช้จ่ายจากเดิมที่กำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายประมาณ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565

การปรับกรอบเวลาของโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จากเดิมจะเริ่มวันที่ 1 มี.ค.-30 เม.ย. 2565 ให้เร็วขึ้น เป็นลงทะเบียนยืนยันตัวตนในวันที่14 ก.พ. และเริ่มใช้วงเงินได้ 21 ก.พ. 2565 ก็เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากราคาสินค้าแพง ถือว่าเป็นไม่ได้ช้าเกินไป เนื่องจากต้องมีขั้นตอนที่เตรียมการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการปฏิบัติมาภายหลัง

ขณะเดียวกันเรื่องของเงื่อนไขต่างๆ ของโครงการ คนละครึ่ง นั้น จะมีการหารือทั้งหมดอย่างละเอียด ซึ่งอาจจะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่ในหลักการต้องพิจารณาตามสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยรายละเอียดทั้งหมดยังต้องรอสรุปให้เรียบร้อยก่อน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า หากพิจารณาตามภาวะเศรษฐกิจแล้ว สถานการณ์ยังคงอ่อนไหว ก็มีความเป็นไปได้ที่ระยะเวลาดำเนินโครงการจะมากเดือนขึ้น แต่หากเศรษฐกิจเริ่มแข็งแรงขึ้น โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ระยะเวลาดำเนินโครงการก็อาจจะลดลง ทุกอย่างสามารถยืดหยุ่นได้ โดยหากระยะเวลาโครงการมากขึ้น วงเงินที่ใช้ก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว รายละเอียดทั้งหมดกำลังประชุมกันอยู่ ต้องรอสรุปอีกที”

นอกจากนี้ นายสันติ มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะเช่นนี้ มาตรการที่จะมีประสิทธิภาพสูงสุด คือการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการผ่านมาตรการคนละครึ่ง ซึ่งมีประชาชนได้ประโยชน์กว่า 28 ล้านคน ช่วยให้การบริโภคของประชาชนโดยเฉพาะในระดับฐานรากดีขึ้น

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button