Jannah Theme License is not validated, Go to the theme options page to validate the license, You need a single license for each domain name.
การเงิน

Citi ขายกิจการ Retail banking และบัตรเครดิตให้ กลุ่มธนาคาร UOB

Citi ประกาศถึงการขายกิจการ Retail banking และบัตรเครดิต ประจำประเทศไทย, อินโดนิเซีย, มาเลเซีย และเวียดนามให้กับ กลุ่มธนาคาร UOB

(14 ม.ค. 2565) ซิตี้ (Citi) ได้ประกาศการบรรลุข้อตกลงในการขายธุรกิจธนาคารกลุ่มลูกค้าบุคคลของซิตี้ ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ให้แก่ กลุ่มธนาคาร ยูโอบี (UOB) โดยธุรกรรมดังกล่าวรวมถึงธุรกิจธนาคารลูกค้าบุคคล หรือ retail banking และธุรกิจบัตรเครดิต แต่ไม่รวมธุรกิจสถาบันของธนาคารในทั้งสี่ประเทศ ธนาคารยังคงมุ่งมั่นและมุ่งเน้นในการให้บริการลูกค้าสถาบันในตลาดเหล่านี้ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และทั่วโลก

ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้ครอบคลุมพนักงานซิตี้ทั้งหมดประมาณ 5,000 คน ซึ่งประกอบด้วยพนักงานธนาคารในธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคลและพนักงานในส่วนสนับสนุนธุรกิจบุคคล ซึ่งจะโอนไปยังยูโอบี เมื่อเสร็จสิ้นการขาย ข้อตกลงนี้มีมูลค่าตามทรัพย์สินสุทธิของธุรกิจ และขึ้นอยู่กับรายการปรับปรุงเมื่อเสร็จสมบูรณ์ บวกค่าพรีเมียม 915 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็น 690 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

มร.ปีเตอร์ บาเบจ ซีอีโอประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีที่จะประกาศการทำธุรกรรมนี้กับยูโอบี ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามั่นใจว่ายูโอบี มีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและมีความต้องการในการเติบโตในระดับภูมิภาค พร้อมที่จะมอบโอกาสที่ดีในการทำงานแก่พนักงานในกลุ่มธุรกิจธนาคารลูกค้าบุคคลของเราในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม

ในขณะเดียวกันเรามีความมุ่งมั่นในการนำเงินทุนที่เกิดจากการทำธุรกรรมนี้ไปใช้ในพื้นที่เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเรา รวมถึงเครือข่ายสถาบันของเราทั่วเอเชียแปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับซิตี้

มร. มาร์ค เมสัน ซีเอฟโอของซิตี้ กล่าวว่า การขายธุรกิจธนาคารกลุ่มลูกค้าบุคคลใน 4 ประเทศนี้ ควบคู่ไปกับการทำธุรกรรมที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของเราในการดำเนินการตามกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ เรามุ่งมั่นในการทำงานเพื่อผลประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น โดยมุ่งเน้นทรัพยากรไปยังธุรกิจที่สามารถสร้างการเติบโตและเพิ่มมูลค่าที่จะคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต

มร. ทีบอร์ พานดิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ซิตี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ธุรกรรมนี้เป็นผลดีต่อลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และองค์กรของเรา ซิตี้มุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกรรมนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในการให้บริการแก่ลูกค้าธนาคารกลุ่มลูกค้าบุคคลและลูกค้ากลุ่มบริหารความมั่งคั่ง หรือ wealth management ของเรา

โดยประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับซิตี้ เราดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่าครึ่งศตวรรษ และเรายังคงมุ่งมั่นและมุ่งเน้นให้บริการลูกค้าสถาบันทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และทั่วโลก

ทั้งนี้ ยูโอบี ได้รับการคัดเลือกจากซิตี้ตามขั้นตอนการประกวดราคาที่เปิดกว้างและแข่งขันได้ ซิตี้มุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกรรมนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งนี้ธุรกรรมการขายในแต่ละประเทศจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อใดนั้นไม่ขึ้นต่อกัน หากขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการอนุมัติด้านกฎระเบียบและเงื่อนไขของประเทศนั้นๆ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2565 ถึงต้นปี 2567 ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าและผลของกระบวนการอนุมัติด้านกฎระเบียบ

ด้านมร.วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า การซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปใน 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม นับเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่มาถึงในเวลาที่เหมาะสม ยูโอบีเชื่อในศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรามีวินัยและอดทนรอในการเสาะหาโอกาสที่ใช่เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ ในระหว่างการรอความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร

เรามุ่งหวังที่จะโอนย้ายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่มีคุณภาพของซิตี้กรุ๊ป และเตรียมต้อนรับทีมงาน รวมถึงสร้างคุณค่าให้กับฐานลูกค้า พนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ของเราที่ขยายใหญ่ขึ้น การซื้อกิจการนี้เมื่อรวมกับจำนวนผู้บริโภคของยูโอบีในภูมิภาค จะเป็นการรวมตัวที่ทรงพลังในการขยายธุรกิจของกลุ่มธนาคารยูโอบี และก้าวสู่ตำแหน่งธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปมีสินทรัพย์สุทธิรวมทั้งสิ้นประมาณสี่พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และฐานลูกค้าราว 2.4 ล้านราย ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64 และมีรายได้ประมาณ 0.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 หากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกรรมนี้ในครั้งเดียว การเสนอซื้อกิจการนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น EPS ของธนาคาร และผลตอบแทนผู้ถือหุ้น หรือ ROE ของธนาคารยูโอบีได้ทันที

สำหรับการพิจารณาข้อเสนอเงินสดสำหรับการเสนอซื้อกิจการนี้จะคำนวณจากค่าพรีเมียมรวมซึ่งเทียบเท่ากับ 915 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ บวกกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของธุรกิจลูกค้ารายย่อยเมื่อการโอนย้ายกิจการเสร็จสมบูรณ์ ธนาคารยูโอบีจะใช้ทุนส่วนเกินของธนาคารเพื่อการเสนอซื้อกิจการครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะลดอัตราส่วนของเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Common Equity Tier 1 หรือ CET1) ของธนาคารลง 0.7% เป็น 12.8% ตามสถานะเงินทุน ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ผลกระทบต่ออัตราส่วน CET1 คาดว่าจะมีไม่มากและจะยังอยู่ภายในข้อกำหนดด้านกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล

โดยการเข้าซื้อกิจการในแต่ละประเทศจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศสิงคโปร์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จระหว่างกลางปี 2565 ถึงต้นปี 2567 ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าและผลของกระบวนการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร ซิตี้กรุ๊ปจะทำงานร่วมกับยูโอบีและธนาคารในเครือ (รวมเรียกว่ากลุ่มธนาคารยูโอบี) อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การโอนย้ายธุรกิจลูกค้ารายย่อย ทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงานเป็นไปอย่างราบรื่น

 

แหล่งที่มาของข่าว : ไทยรัฐ (Thairath)

สามารถติดตามข่าวธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวธุรกิจ

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button