ดราม่า กระเป๋าแอร์เมส ล่าสุดส่งตรวจ เจ้าของร้านลั่น ถ้าแท้จะเลิกเป็นกระเทย
ส่งไปตรวจแล้ว ดราม่า กระเป๋าแอร์เมส เจ้าของร้านลั่น ถ้าเป็นของแท้จะเลิกเป็นกระเทย ให้เงินอีก 2 ล้าน ชาวเน็ตยังถล่มปมเขียนกระเป๋า
จากกรณีที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ได้โพสต์คลิปของทาง ร้านขายสินค้าแบรนด์เนมออนไลน์เจ้าหนึ่ง ที่เปิดกล่องกระเป๋าหรู เพื่อเช็กสินค้า เป็นกระเป๋าแอร์เมส (Hermès Constance 24) ราคาหน้าร้านมือหนึ่งจะอยู่ที่ราวๆ ใบละ 5 แสนบาท แต่ปรากฎว่าทางร้านระบุว่ากระเป๋าใบนี้เป็นของปลอม ก่อนจะเอาปากกามาเขียนลงไปบนกระเป๋าว่า “ปลอม”
ต่อมา ประเด็นนี้กลายเป็นดราม่าร้อน ปะทุเดือดบนโลกออนไลน์ เพราะแท้จริงกระเป๋าแอร์เมสดังกล่าวเป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ขายต่อให้ทางร้าน ในราคา 390,000 บาท
โดยมีการตกลงราคาเรียบร้อย ก่อนที่สาวเจ้าของกระเป๋าจะส่งไปรษณีย์ให้ทางร้านจัดการเช็กของแล้วโอนเงินกลับมา แต่ปรากฎว่านอกจากจะไม่มีการโอนกลับมาแล้ว ยังมาเจอว่าทางร้านใช้ปากกาเขียนลงไปตามคลิป เพราะบอกว่ากระเป๋าของเธอเป็นของปลอม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางร้านดังกล่าวได้โพสต์รูปภาพกระเป๋า พร้อมระบุข้อความว่า “รอผลตรวจอยู่นะคะ เดี๋ยวถ้าผลออกมาแล้วเป็นของแท้ ยินดีรับไว้ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ซึ่งหลายความคิดเห็นระบุว่า ต่อให้เป็นของปลอม หรือไม่ปลอมยังไงก็ไม่มีสิทธิ์ไปเขียนบนกระเป๋าของคนอื่นแบบนี้ และถ้ามองว่าเป็นของปลอมก็ควรจะนำส่งคืนเจ้าของไป ไม่ควรยื้อไว้แบบนี้
ก่อนหน้านี้ เจ้าของร้านเคยคอมเมนต์ระบุว่า คนที่เอากระเป๋ามาขายนั้นทำกันเป็นขบวนการ ถ้าไม่ส่งกระเป๋าไปตรวจสอบที่ฝรั่งเศสก็จะไม่รู้เลยว่าจริงหรือปลอม ขนาดช็อปที่ฮ่องกงยังไม่รู้เลย คนพวกนี้ควรไปติดคุกเพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน พร้อมยืนยันว่ากระเป๋าใบนี้เป็นของปลอมแน่นอน ถ้าไม่ปลอมตนจะให้เงินเลย 2 ล้าน พร้อมติดแฮชแท็กว่า #กูจะเลิกเป็นกะเทยถ้าใบตรวจออกเป็นของแท้
หลังจากโพสต์อัปเดตของทางเจ้าของร้าน จนถึงตอนนี้ (17 ธ.ค.) ก็ยังคงมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความเห็นกันไม่หยุด บางรายทวงถามว่าหากเป็นของแท้ก็อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้ เช่นเดียวกับ หลายคนที่ยังยืนกรานชัดว่า ยังไงถึงกระเป๋าจะเป็นของแท้หรือไม่ ก็ไม่มีสิทธิอะไรนำปากกาไปเขียนกระเป๋าของคนอื่น
ขณะเดียวกันแม้จะมีคอมเมนต์โจมตี แต่สังเกตดีๆ ก็ยังมีบางคนเข้ามาให้กำลังใจเจ้าของร้านด้วยการติดแฮชแท็ก #ทีมเจ้าของร้าน โดยตอนนี้ถือว่าผลตรวจสอบนั้นสำคัญมากทีเดียว สำหรับการจบประเด็นดราม่ากระเป๋าแบรนด์เนมใบนี้