Tidal ประกาศปรับแผนการให้บริการใหม่ เพิ่มการให้บริการฟรี (Free tier) ลดราคาบริการ HiFi เหลือ 300 กว่าบาท (9.99 ดอลลาร์) ต่อเดือน
วันนี้ (18 พ.ย. 2564) Tidal หนึ่งในผู้ให้บริการ Music Streaming ในตลาดเวลานี้ ได้ประกาศถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบและโครงสร้างของการให้บริการใหม่ โดยในเวลานี้จะมีการให้บริการด้วยกันทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน Free tier, HiFi tier และ HiFi Plus tier
โดยเริ่มต้นที่ Free tier ที่ซึ่งตรงตัวตามชื่อ – จะเป็นการให้บริการแบบฟรี ๆ โดยจะสามารถทำการฟังเพลงบน Tidal ได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่จะแลกมาด้วยคุณภาพเสียงที่จำกัดไว้ในระดับ 160kbps AAC และจะมีการโฆษณารบกวนคั่นในระหว่างใช้งานด้วย
ต่อมาก็คือ HiFi tier ที่ก่อนหน้านี้คือ Premium Plan ที่ได้รับการอัปเกรดจากเดิมที่จำกัดคุณภาพเสียงไว้ที่ 320kbps AAC ก็เปลี่ยนมาเป็น 1411kbps FLAC CD-quality lossless* ในส่วนของการให้บริการนั้นยังคงรูปแบบเดิมอยู่ : รายงานผลการฟัง/การใช้งาน, สามารถทำการฟังเพลงแบบออฟไลน์ได้, ปราศจากการโฆษณารบกวน
ในท้ายที่สุดก็คือ HiFi Plus tier ที่เติมคำว่า Plus ต่อท้าย HiFi ซึ่งจะเพิ่มการเข้าถึงเพลงที่เข้ารหัสเสียงคุณภาพสูง* MQA, Dolby Atmos, และ Sony 360 Audio นอกจากนี้แล้วยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่อีก 2 อย่างได้แก่ Direct artist payouts และ Fan-centered royalties
โดยคร่าว ๆ แล้วนั้น Direct artist payouts จะเป็นแบ่งค่าบริการสมาชิกจำนวน 10% แล้วนำไปมอบให้กับศิลปินที่คุณฟังมากที่สุด ซึ่งมีการรายงานตลอดทุกเดือนผ่านการแสดงผลศิลปินที่ชื่นชอบมาที่สุดในแต่ละเดือน พร้อมแสดงผลจำนวนเงินที่เขาได้ไป
ทางด้านของ Fan-centered royalties จะเป็นการมอบค่าลิขสิทธิ์จากการใช้บริการของคุณให้แก่ศิลปินที่คุณฟังโดยตรงแทนที่จะมีการแบ่งจ่ายตามปกติ ซึ่งก็จะส่งผลให้ศิลปินที่มีการฟังเพลงมากนั้นสามารถสร้างรายได้จากแนวทางนี้มากขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะดูยอดเงินในแนวทางนี้ของศิลปินที่ติดตามได้ (จะเริ่มใช้งานภายในเดือนมกราคม 2022)
กลับมาในส่วนของคุณภาพเสียงกันก่อนจะปิดท้าย การให้บริการในระดับ HiFi ปกตินั้น จะยังคงส่งมอบคุณภาพแบบ lossless และ compressed รวมไฟล์เสียง MQA แบบ unfolded โดยจะไม่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างปกติ และ Plus ในขณะเดียวกันนั้นตัวเลือก Master quality นั้นจะมอบให้แค่ไฟล์เพลง MQA แบบ compressed ที่ซึ่งส่วนใหญ่นั้นไม่ได้เป็นในรูปแบบ high res
ด้วยความซับซ้อนของ MQA แล้วนั้น ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหล หรือเสพติดเสียงเพลงแล้วละก็ Tidal อาจจะยังไม่เหมาะกับคุณในเวลานี้ แต่ถ้าหากคุณอยากรู้สึกสามารถสนับสนุนศิลปินที่ชื่นชอบได้แล้วนั้น Tidal อาจจะเป็นบริการที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม Tidal ยังถือว่าเป็นบริการที่เล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น ๆ เพราะงั้นแล้วมันอาจจะไม่ได้มีผลอะไรมากเท่าไหร่กับการตัดสินใจของผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลงในเวลานี้
แหล่งที่มาของข่าว : GSMArena
สามารถติดตามข่าวเทคโนโลยีเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเทคโนโลยี
- Microsoft ลดการอัปเดตประจำปีสำหรับ Windows 10
- Apple ประกาศโครงการ ‘Self Service Repair’ ส่งเสริม การซ่อมอุปกรณ์ด้วยตัวเอง
