ประวัติ ท๊อป จิรายุส ผู้มาก่อนกาล แห่งโลกสกุลเงินดิจิทัล
ประวัติ ท๊อป จิรายุส ย้อนรอยความสำเร็จ ของผู้ก่อตั้งกระดานเทรด bitkub กับวิสัยทัศน์ที่ล้ำหน้าเกินยุค และความคาดหวังต่อสกุลเงินดิจิทัล
หลังจากที่เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา บริษัท SCBS ได้ประกาศซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจาก bitkub (Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd.) ได้เรียกกระแสฮือฮาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลให้กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง ซึ่งสำหรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด นับว่าใช้เวลาเพียง 3 ปีกว่า ๆ ก็สามารถเติบโตมาได้ไกลเกินคาดมาก นับว่ามีที่มาที่ไปอยู่เหมือนกัน
โดยในบทความนี้เราจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านย้อนรอยประวัติ พร้อมกับเปิดแนวความคิดของ ท๊อป หรือคุณ จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งบริษัทบิทคับ ว่าอะไรที่นับพาเขามาพบกับสกุลเงินดิจิทัล และได้ต่อยอดจนประสบความสำเร็จได้ในทุกวันนี้
ประวัติ ท๊อป – จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
ท๊อป หรือ จิรายุส ทรพัย์ศรีโสภา เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในครอบครัวที่ประกอบธุรกิจขายเสื้อผ้าส่งออก และได้สำเร็จการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
จากนั้นก็ได้เข้าทำงานแรกในปี ค.ศ. 2013 ตำแหน่งวานิชธนากร ที่สถาบันการเงินในนครเซี่ยงไฮ้ ระยะเวลา 3 เดือน และย้ายมาทำงานที่ซานฟรานซิสโกอีก 1 เดือน ก่อนจะลาออกมาเริ่มต้นทำธุรกิจบิตคอยน์
บิทคอยน์ – คอยไม่ได้
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 2009 บิทคอยน์ ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก โดยมีราคาเปิดตัวเริ่มต้นเพียง 1 บิทคอยน์ / 2.67 สตางค์ เท่านั้น แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไปตามกระแสธารของเทคโนโลยี และโลกโซเชียล บวกกับวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลของ ท๊อป ซึ่งได้สั่งสมองค์ความรู้และประสบการณ์มากว่า 8 ปี
ทำให้ในปี ค.ศ. 2018 ก็ได้ฤกษ์ก่อตั้ง บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำธุรกิจที่ได้รับรองโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รายแรกของประเทศไทย
โดยในปีแรก (ค.ศ. 2018) บริษัททำรายได้ประมาณ 3 ล้านบาท และโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีที่สามและสี่ (ค.ศ. 2019 – 2020) เพิ่มขึ้น 1,000% จนสามารถทำรายได้มากถึง 300 ล้านบาท กระทั่งในปัจจุบัน (ค.ศ. 2021) ก็สามารถสร้างรายได้ในมากเป็นประวัติศาสตร์ สูงสุด 5,000 ล้านบาท
ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าในตลาดเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ และกลายเป็นม้ายูนิคอร์นดั่งฝัน ด้วยอายุเพียง 31 ปี เท่านั้น
วิสัยทัศน์ที่ไม่หยุดนิ่ง
ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากคลิปการให้สัมภาษณ์ในรายการ บุกออฟฟิศ Bitkub ว่าที่ Unicorn ตัวแรกของไทย | CEO Style Ep.2 คุณท๊อปได้เผยถึงหลักการทำงานของเขาซึ่งประกอบด้วย 3 คำหลัก ๆ ดังนี้
- Focus
- Passionate
- Think Different
แม้จะเป็นหลักการที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่หัวใจสำคัญของคุณท๊อปที่นอกเหนือจากแนวคิดการทำงานของเขาก็คือ ‘วิสัยทัศน์’ และ ‘ความไม่ยอมแพ้’ ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ประกอบการแต่กลับปฏิบัติได้ยากยิ่ง ซึ่งตัวคุณท๊อปเองยังได้กล่าวในบทสัมภาษณ์อีกด้วยว่า
“…ผมไม่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุด แต่เป็นคนที่ทำสิ่งนี้มานาน…ผมล้มมาแล้วโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นตอนที่ผมล้ม…”
จากประโยคนี้ยิ่งตอกย้ำแนวคิดของเขาได้เป็นอย่างดี ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นต้องผ่านอะไรมามากมาย ซึ่งน้อยคนนักที่จะรับรู้
นอกเหนือจากการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาและกระหายความรู้อยู่เสมอ อีกสิ่งหนึ่งที่คุณท๊อปเน้นย้ำเป็นพิเศษก็คือคุณสมบัติของ AQ หรือก็คือ Adaptability Quotient อันเป็นความสามารถในการปรับตัว และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สอดคล้องกับยุคสมัยที่มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาในหลายสิ่งอย่าง ทำให้เราไม่อาจพึ่งพาทักษะได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะเป็นการที่สามารถประยุกทักษะที่มีมาให้เข้ากับบทบาทการทำงานที่หลากหลายมากขึ้นด้วยนั่นเอง
เพราะไม่แน่ว่าในอนาคต สกุลเงินดิจิทัลที่เคยไม่สำคัญ อาจจะกลายมาเป็นกระแสเงินหลักในชีวิตประจำวันของเราก็เป็นได้ ส่วนใครที่เริ่มต้นสนใจก็ลองศึกษาดูนะครับ ลงทุนตอนนี้ อาจได้กำไรก้อนโตในภายภาคหน้าก็ได้ ใครจะรู้… ?
- SCBS ขึ้นแท่น เข้าถือหุ้นใหญ่ bitkub มูลค่า 1.78 หมื่นล้าน
- ล้มยกตี้!! เหรียญ SQUID โดน Rug Pull ราคาดิ่งทะลุกราฟ
- จาก Facebook สู่ Meta ยกระดับแพลตฟอร์มโซเชียลเสมือนจริง
อ้างอิงจาก : กรุงเทพธุรกิจ Toppjirayut Techsauce SCB Blueoclock