ดราม่าหยุดกินแซลมอน คนแห่แจง ไม่ได้ทำลายธรรมชาติแถมดีต่อใจ

Pacharaเผยแพร่: 14 ต.ค. 2564 16:52 น.| อัปเดต: 14 ต.ค. 2564 16:52 น.

95 Less than a minute

คนแห่อธิบาย หลังเกิดดราม่าหยุดกินแซลมอน ชี้ไม่ได้ทำลายธรรมชาติตามที่ต้นโพสต์เข้าใจ ส่วนใหญ่ที่กินกันมาจากฟาร์มที่เพาะเลี้ยง แซลมอนธรรมชาติจริงๆ ไม่มีทางหลุดมาถึงผู้บริโภค

จุดเริ่มต้นของดราม่านี้บังเกิดมาจากบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ทำนองขอให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์หยุดกินแซลมอน เพราะกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล สัตว์ที่ต้องกินแซลมอนก็จะตายเอา แซลมอนเพาะพันธุ์ยาก โดยยังให้คำแนะนำเพิ่มด้วยว่าให้หหันมารับประทานอโวคาโดจิ้มซอสโชยุก็ได้รสชาติเหมือนทานแซลมอนเช่นกัน

หลังจากดราม่านี้ดำเนินไปตามท้องเรื่อง ในที่สุดผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Pisek Sanitthangkoon เชฟคนไทยในอเมริกา ก็ออกมาอธิบายถึงประเด็นนี้อย่างละเอียดในฐานะคนที่คลุกคลีกับเมนูปลาสองน้ำมาก่อน โดยยกข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผลมาหักล้างความเข้าใจผิดของโพสต์ต้นเรื่อง ดังนี้

กรณีทำลายห่วงโซ่อาหาร ทางเชฟบอกไม่ต้องเป็นกังวลเพราะแซลมอนที่บริโภคกันนั้นเป็นปลาจากฟาร์มเพาะเลี้ยง 100% บางกรณีตามร้านบุฟเฟต์เป็นปลาเทราท์ฉีดสีจากจีน ส่วนสายพันธุ์ที่ขายให้กินดิบ ๆ เป็น Atlantic, King( New Zealand ) ซึ่งก็มาจากปลาฟาร์มที่เพาะเลี้ยงในทะเล

ประเด็นปลาแซลมอนเพาะพันธุ์ยาก ข้อมูลจากโพสต์ชี้แจง ระบุว่า อัตราการรอดกลับไปลงทะเลของปลาแซลมอนหลังจากวางไข่น้อยกว่า 1% มักจะถูกหมีหรือนกจับกินหมด ถึงถ้ารอดมาได้ก็จะโดนคนตั้งเบ็ดตกปลาตรงปากแม่น้ำอยู่ดี ขณะที่รัฐในอเมริกาจะเปิดให้ตกปลาแซลมอนเฉพาะตอนที่ปลาว่ายกลับทะเลหลังจากวางไข่เท่านั้น ส่วนลูกปลาแซลมอนจะถูกช้อนจากแอ่งน้ำตกไปเพาะพันธุ์ในศูนย์ Salmon Hatchery ที่กระจายตัวอยู่ตามต้นน้ำต่าง ๆ เมื่อตัวใหญ่พอจะถูกปล่อยให้กลับสู่ทะเล

ขณะที่ฮอร์โมนปนเปื้อน ร่างกายมนุษย์สามารถกำจัดมันได้ตามปรกติ ถ้าไม่รับประทานเกินขนาด เช่น รับประทานเข้าไปมื้อละ 2 ตัว ติดกัน 3 เดือน

นอกจากนี้คำแนะนำที่ให้หันมากินอโวคาโดจิ้มซีอิ๊ว เชฟไทยในเมืองลุงแซม ระบุ รสชาติไม่เหมือนแซลมอน แต่รสชาติเหมือนอาโวคาโดจิ้มซีอิ๊ว

โดยกระแสดราม่านี้ก็ยังไม่พ้นเงื้อมมือของเฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ที่ก็ออกมาร่วมแจมความเห็น โดยบอกว่ารับประทานได้เพราะปลาแซลมอนที่กินกันทุกวันนี้มาจากระบบเพาะเลี้ยงทั้งนั้น แถมเป็นปลาที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ เพราะฝั่งที่เห็นด้วยว่าควรหยุดกินแซลมอน ก็ได้แคปภาพหน้าจอของทวิตที่รณรงค์ในห้ลดกินปลาชนิดนี้ นำมาแชร์ต่อพร้อมกับเรียกร้องในทำนองเดียวกัน

ทั้งนี้ หลังเกิดประเด็นดราม่าขึ้น ทางเจ้าของทวิตต้นเรื่องได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตัวเองไม่ได้บอกว่าให้หยุดกิน แต่แค่ให้ลด และไม่มีเจตนาบังคับใครให้ทำตาม โดยที่ทวิตไปเป็นเพียงมุมมองของตัวเองเท่านั้น ส่วนเรื่องอโวคาโดที่ถูกหลายคนเอามาวิจารณ์ ประเด็นคือไม่ได้จะโฟกัสที่จุดนั้น เรื่องรสชาาติหรืออะไรก็ตามเป็นความชอบส่วนบุคคล พร้อมกับบอกว่าถ้ายังมีการก่อกวนในทวิตต้นเรื่องจะทำการลบทวิตนั้นออกทันที และล่าสุดตอนนี้ทวิตต้นเรื่องทีออกมาขอให้รณรงค์ลดกินแซลมอนก็ได้ถูกลบออกไปแล้ว

เช่นเดียวกับเสียงวิจารณ์บางส่วนก็มองว่า เรื่องนี้ถ้าเจ้าาของทวิตเข้าใจผิดก็แค่อธิบายให้เข้าใจถูกต้องก็จบแค่นั้น แต่หลายคนกลับไปวิจารณ์เอาสนุกกันจนเกินไป

หยุดกินแซลมอน ดราม่า