เสี่ยโบ๊ท ยังคงย้ำชัด คนจ้างฟ้าวันใหม่ ล้มมวย ต้องเข้าคุก จากนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ตำรวจ ด้านนักชกฉาวขอขมากลางโหนกระแสยอมรับเสียดายโอกาส
จากกรณีล้มมวยฉาวของ ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ ซึ่งเกิดขึ้นในไฟต์แพ้น็อกให้กับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ นักชกคู่แข่งในยกที่ 4 ณ เวทีมวยโรงยิมเอนกประสงค์ สนามกีฬากลาง จ.บุรีรัมย์ ของศึกทรูโฟร์ยู มวยมันส์วันศุกร์ เมื่อที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยหลังถูกจับได้ ฟ้าวันใหม่ ออกมายอมรับว่าสาเหตุที่ล้มมวยเพราะอยากได้เงินจ้างวานจำนวน 500,00 บาท ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “เสี่ยโบ๊ท”ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ศึกเพชรยินดี ได้เปิดเผยข้อมูลในรายการ โหนกระแส เมื่อวานนี้(13 ต.ค.) ว่า ผู้ว่าจ้างให้ฟ้าวันใหม่ล้มมวยพยายามติดต่อพูดคุยกับคนรู้จักให้ยุติในเรื่องนี้ แต่ตนยืนยันจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทางเดียวที่จะคุยกันได้ต้องมายอมรับสารภาพและต้องติดคุก
“ผมรู้ว่าคนที่จ้างวานเป็นใคร ถ้าเขาไม่ผิดจริงเขาจะหนีทำไม เขาคุยมาทางคนรอบๆ ข้างผมว่าจะอยากให้ยอมและหยุดเรื่องนี้ แต่ผมอยากให้เขามายอมรับสารภาพและต้องติดคุก” ณัฐเดช หรือ เสี่ยโบ๊ท กล่าว
ด้าน ฟ้าวันใหม่ ได้กล่าวในรายการ โดยยอมรับว่าเสียดายโอกาสที่เคยได้รับ ขณะเดียวกันก็ฝากขอโทษทุกคนในวงการ จากนั้นได้นำขันธ์ 5 ขอขมาเสี่ยโบ๊ท ซึ่งทางเจ้าของค่ายมวยดังก็บอกกับฟ้าวันใหม่ว่าต้องยอมรับและชดใช้กับสิ่งที่ได้ทำและขอให้จากนี้ปรับปรุงตัวใหม่
ทั้งนี้หลังจบรายการเสี่ยโบ๊ทได้ออกมาอัปเดตเรื่องนี้ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยอโหสิให้กับนักมวยที่เคยชุบเลี้ยง ส่วนเรื่องของคดีจากนี้ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
รับชมเทปรายการโหนกระแส คลิก
ในส่วนของคดีความ อ้างอิงจากบทลงโทษที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ส่วนของฟ้าวันใหม่ เข้าข่ายมีความผิดใน มาตรา 65 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้มีการกระทำการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ในส่วนของผู้ว่าจ้าง มาตรา 64 ได้ระบุไว้ว่า “ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”