ข่าว

ไฟเซอร์นักเรียน : แพทย์ แนะสังเกตอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน อาจเครียดจนเป็นลม ปวดท้อง

ไฟเซอร์นักเรียน : แพทย์ แนะสังเกตอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน อาจเครียดจนเป็นลม ปวดท้อง

จากกรณีที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้การสนับสนุนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ป้องกันโรคโควิด-19 ให้กลุ่มเด็กนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม เด็กได้ไปโรงเรียน ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยันวัคซีนมีความปลอดภัยและมีจำนวนเพียงพอ ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจ พร้อมทั้งวางแผนเตรียมขยายผลฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กลุ่มบุคลากรทางการศึกษาในระยะต่อไปด้วย

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๗ จังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวถึงกรณีที่กรมควบคุมโรคได้สนับสนุนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับกลุ่มเด็กนักเรียน ซึ่งต่อจากนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ผู้ปกครองและครู ได้รับทราบและมีความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นภายหลังได้รับวัคซีน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากตัววัคซีน คุณภาพของวัคซีน กระบวนการฉีดวัคซีน และความวิตกกังวลต่อการได้รับวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนให้แก่คนจำนวนมากในเวลาเดียวกัน จะมีโอกาสทำให้พบอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ไม่บ่อยนักได้ โดยอาจเกิดจากข่าวต่างๆ ที่มีการรายงานผลข้างเคียงของวัคซีน ทำให้เกิดความวิตกกังวลได้มาก โดยเฉพาะในวัคซีนที่ไม่มีประสบการณ์การใช้ในวงกว้างมาก่อน รวมถึงกระบวนการฉีดที่อาจทำให้เกิดความเครียดได้สูง

ทั้งหมดนี้อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดเมื่อได้รับวัคซีน องค์การอนามัยโลกได้นิยามกลุ่มอาการนี้ว่า Immunization Stress-Related Response (ISRR) ซึ่งมีอาการได้หลากหลายเช่น เป็นลม ปวดเกร็งท่อง คลื่นไส้อาเจียน ตามัว ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว อันเป็นผลจาการตอบสนองของระบบประสาทอัตโนมัติ ไปจนถึงอาการทางระบบประสาท เช่น อาการอ่อนแรง การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ ความผิดปกติของการทรงตัว พูดไม่ชัด โดยส่วนใหญ่อาการมักเกิดขึ้นเร็วภายในไม่กี่นาทีหลังรับวัคซีน มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบมากในผู้ที่อายุน้อย

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ได้กล่าวต่อว่า อาการสำคัญที่เป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อวัคซีน มีอยู่ 2 กลุ่มคือ อาการหรือผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังได้รับวัคซีน เช่น อาการปวด บวม ร้อน บริเวณที่ฉีด และกลุ่มที่สองคือ อาการตามระบบอื่นๆเช่น มีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อย ใจสั่น หมดแรง อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน มึนงง และเวียนศีรษะ โดยอาการเหล่านี้จะเกิดเพียง 1-2 วัน หลังได้รับวัคซีนมักไม่รุนแรงแต่มีบางรายเท่านั้นที่มีอาการไข้สูงและ/หรือหนาวสั่น จนต้องพักหรือไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ต้องกินยาแก้ปวดลดไข้ นอนพัก หรือต้องไปพบแพทย์ สำหรับอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นสามารถให้การรักษาตามอาการเท่าที่จำเป็น ซึ่งอาจเกิดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ได้รับวัคซีน เช่น มีไข้ หนาวสั่น ควรให้รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล ส่วนอาการข้างเคียงรุนแรงที่ควรรีบไปพบแพทย์ คือ ไข้สูง ผื่นขึ้นทั้งตัว ปวดศีรษะรุนแรง ชัก/หมดสติ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มีจุดเลือดออกตามผิวหนังจำนวนมาก อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ทั้งนี้กรมควบคุมโรคได้เน้นย้ำว่า “การฉีดวัคซีนโควิด 19 จะคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้ ทุกตัวผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและขึ้นทะเบียนรับรองจากอย. จึงขอให้ผู้ปกครองนักเรียน ทุกคนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย” ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ภาพจาก : กระทรวงสาธารณสุข

ไทยเกอร์นิวส์

นำเสนออัปเดตข่าวสารบ้านเมือง ข่าวล่าสุด มั่นใจว่าคุณจะทันทุกสถานการณ์ ไม่ว่า สังคมเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง เรื่องร้อนออนไลน์ ดราม่าดารา อัปเดตบันเทิง ซีรีส์ หนัง เพลง ท่องเที่ยว กีฬา ตรวจหวย เลขเด็ด พร้อมเสิรฟ์ทุกเรื่องยาก ๆ ย่อยให้คุณเข้าใจง่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button