ข่าวข่าวภูมิภาค

‘หมอโอภาส’ สนับสนุน ฉีดไฟเซอร์ให้นักเรียน ต้นตุลาคมนี้

หมอโอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาแสดงความสนับสนุน แนวคิดการ ฉีดไฟเซอร์ให้นักเรียน อายุมากกว่า 12 ปี ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้นักเรียนกลับไปเรียนได้ตามปกติ

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และกลุ่มผู้ปกครอง ต้องปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน นักเรียนต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่บ้านแทน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีภูมิคุ้มกันโรคอย่างเพียงพอ ดำเนินชีวิตอยู่กับโรคโควิด 19 ได้ โรงเรียนทุกแห่งเปิดเทอม นักเรียนสามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ การฉีดวัคซีนจะเป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด

ซึ่งกรมควบคุมโรคพร้อมให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในกลุ่มนักเรียนตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามประชาชน ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เป็นต้น จะส่งผลให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อไปว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียน และอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ ซึ่งแผนการจัดหาวัคซีนในเดือนตุลาคมที่จะได้รับวัคซีนรวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านโดส รวมกับวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อีกจำนวน 6 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส ซึ่งในจำนวนนี้มีวัคซีนของไฟเซอร์ จำนวน 8 ล้านโดส ตามมติที่ประชุมของของ ศบค. เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 มีมติให้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 4.8 ล้านโดส ให้กับกลุ่มนักเรียนอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ ทั้งนี้ กำหนดให้บริการฉีดวัคซีน ผ่านสถาบันการศึกษาดังนี้ คือ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนพระปริยัติธรรม สถาบันการศึกษาปอเนาะ และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป กำลังศึกษาอยู่ เป็นต้น โดยกรมควบคุมโรคจะหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อวางแผนจัดระบบความพร้อมก่อนฉีดโดยเร็ว ทั้งนี้ ผู้ปกครองต้องแสดงความจำนงให้นักเรียนในปกครองฉีดวัคซีนโควิด 19 ล่วงหน้า

“การฉีดวัคซีนโควิด 19 จะคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้ ทุกตัวผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและขึ้นทะเบียนรับรองจาก อย. จึงขอให้ผู้ปกครองนักเรียน ทุกคนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้ กระทรวงสาธารณสุขจะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการตามนโยบายการฉีดวัคซีนให้เด็กถ้วนหน้าให้ดีที่สุด ยึดประโยชน์ของผู้ปกครองและประชาชนไทยทุกคนเป็นสำคัญ” นายแพทย์โอภาสกล่าว

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการขยายผลฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน ทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการ ในระยะต่อไปโดยเร็ว รวมทั้งดำเนินการในกลุ่มของผู้ปกครองนักเรียนบางส่วนที่อาจยังไม่ได้รับวัคซีนด้วย

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button