‘อนุทิน’ ยันยังไม่มีการพูดคุยเรื่อง ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อนุทิน เผยว่าในขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยหรือรับทราบถึงประเด็น ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมชง ศบค. ถึงการผ่อนคลายมาตรโควิด
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค. 64) กล่าวว่า ศปก.สธ.คงมีรายงานปกติ และคงสรุปว่าจะผ่อนคลายอะไรได้บ้าง รวมทั้งคงพิจารณาเรื่องวัคซีนไฟเซอร์ ต้องหาข้อยุติให้ได้ว่า จะฉีดในเด็กอายุ 12 ปี โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขได้หรือไม่ เหตุผลหลักที่จัดซื้อไฟเซอร์มา เพราะเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้
อย่างไรก็ตาม รมว.สธ.ไม่ใช่คนตัดสินใจ ต้องให้แพทย์ไปหารือให้ได้ข้อตกลง ทั้งนี้ อยากให้ฉีดให้ครบ เพื่อรองรับเปิดเรียนได้โดยที่ทุกคน ทั้งพ่อแม่ นักเรียนสบายใจ หากมีเงื่อนไขฉีดไม่ได้ จะเปิดเรียนอย่างไร เพราะเด็กต้องเรียนที่โรงเรียน เรียนออนไลน์ตลอดทั้งปีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้
เมื่อถามถึงมาตรการรองรับเปิดประเทศ นายอนุทิน กล่าวว่า พยายามดูสถานการณ์อัตราการฉีดวัคซีน เช่น ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ฉีดจำนวนมาก เมื่อติดเชื้อก็ไม่พบป่วยหนักหรือเสียชีวิต ให้นโยบายว่า ที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เหมือนเป็นเกตเวย์ของคนต่างประเทศ ที่ต้องมาแยกกักในไทย เราก็อยากทำให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด ก็ต้องพิจารณาฉีดเข็ม 3 ให้กับกลุ่มคนที่สัมผัสกับชาวต่างประเทศให้มากที่สุด ไม่ได้เป็นการแย่งวัคซีน เป็นการทำห้องรับแขกให้สะอาดเรียกแขกดีๆ มาอยู่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และค่อยๆ เปิดประเทศไปเรื่อยๆ
“ขณะนี้วัคซีนมีมากพอ เข้ามาต่อเนื่อง ไม่ควรมีปัจจัยอะไรมาเป็นอุปสรรคอีก ผมมอบนโยบายในที่ประชุมผู้บริหาร สธ.เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ให้หาวิธีบริหารการกระจายวัคซีน เนื่องจากวัคซีนอายุเกิน 6 เดือนก็ไม่ค่อยดี ต้องเร่งฉีดให้เต็มที่ ส่วนการฉีดเข็ม 3 จะเริ่มทยอยฉีดต้นต.ค. สำหรับผู้ที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มไปแล้ว มีประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งมีแอสตร้าฯ เพียงพอ เชื่อว่าสิ้นปีนี้ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น” รมว.สธ. กล่าว
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมของ สธ.หลังประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยหรือรับทราบเรื่องการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม สธ.พร้อมในเรื่องของการรักษาพยาบาล เฝ้าระวัง ป้องกัน ซึ่งทำอย่างเต็มที่