ข่าวข่าวการเมือง

อภิปรายไม่ไว้วางใจ เดือด ‘ประยุทธ์’ สวน เสรีพิศุทธ์ ท่านแค่ผบ.ตร. ผมเป็นนายก

ประยุทธ์ สวน เสรีพิศุทธ์ หลังโดน อภิปรายไม่ไว้วางใจ อัดเรื่องงบประมาณ ชี้ประสบการณ์ต่างกัน ท่านแค่ผบ.ตร. ผมเป็นนายก

อภิปรายไม่ไว้วางใจ ประยุทธ์ – วันที่ 31 ส.ค. 2564 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระ พิจารณา “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” วันแรก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้อภิปรายโดยระบุชัด ขออภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา เพียงคนเดียว ซัดบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ทุจริต ฉ้อฉล ไม่รู้กฎหมาย มีแต่ผลาญ มีแต่กู้เงิน คุณสมบัติเป็นนายกฯ ไม่ได้ เงินที่กู้มาใช้ในโครงการต่างๆเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า

นอกจากนี้ยังจัดทำงบประมาณโดยไม่เข้าใจปัญหาประเทศและประชาชน โดยทำงบประมาณมาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่งบ 58-65 รวม 23.5 ล้านบาท

ช่วงท้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังเปิดสไลด์อ้างข้อมูลมาจากเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งหมดที่ผ่านมา เหมือน “ขยะแผ่นดิน” ที่กล่าว อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาทั้งหมด พล.อ. ประยุทธ์ ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นขอชี้แจงทันที โดยหล่นประโยคแรกก็กล่าวในทำนองยกตนข่มท่านทันที โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “อาจเพราะประสบการณ์ต่างกัน ท่านเป็นแค่ผบ.ตร. ส่วนตนเป็นนายกฯ”

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า “หลายอย่างเราคิดไม่ตรงกัน อาจเพราะประสบการณ์ต่างกัน ท่านเป็นแค่ผบ.ตร. ส่วนตนเป็นนายกฯ ในการจัดทำงบประมาณที่ท่านรัฐบาลทำแบบขาดดุลไม่มีความก้าวหน้า ใช้เงินเพื่อปูพื้นฐานทางการเมือง ท่านรู้ดีเหลือเกิน เพราะตนไม่เคยทำแบบนี้ งบเอามาใช้ตามสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสิ้น ส่วนงบกลางก็เป็นแผนการใช้จ่ายตามระเบียบ ตนไม่สามารถไปชี้นิ้วอะไรได้เลย ทุกอย่างผ่านการกลั่นกรองตรวจสอบทุกประการ ตนไม่อยากมีปัญหาแบบก่อนหน้านั้นที่มีเรื่องทุจริต”

ส่วนเรื่องงบประมาณกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว การจัดตั้งงบประมาณดูหลักการพิจารณาจากสัดส่วนงบประมาณต่อวงเงินงบประมาณที่บอกว่าสัดส่วนของกระทรวงกลาโหมสูงสุด เพียงแค่สัดส่วน 7.57% ขอให้ย้อนกลับไปดูด้วย

ขณะที่หนี้ส่งต่อมาหลายรัฐบาล ซึ่งไม่มีเพิ่มขึ้นในสมัยรัฐบาลตน แต่เป็นหนี้ที่เกิดมูลค่า ส่วนที่บอกว่าตนนั้นไม่รู้กฎหมาย ตนไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด แต่ตนรู้ว่าตนจะใช้กฎหมายได้อย่างไร ให้คนที่ทำหน้าที่ตรงนี้มีอิสระเสรีในการตัดสินใจ ในการแต่งตั้งคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนก็ให้ ผบ.ตร. เป็นผู้พิจารณา ตนคิดว่าตนทำได้ดีกว่าสมัยก่อนมาก ขอให้ไปดู

ส่วนที่มีข้อกล่าวอ้างว่าการออกมาตรการของตนออกมาเพื่อให้คนนั้นรักหรือเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ คงไม่ใช่ตรงนั้น จะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่ออยู่ที่กระบวนการประชาธิปไตยในสภาฯ ก็ว่ากันไป

ในช่วงท้ายของการชี้แจง พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องเงินทอน ขอให้ไปหามาว่าใครได้ ตนยืนยันจะรับการตรวจสอบทุกชนิด ที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ บอกบริจาคเงินมากกว่าตน เป็นเรื่องที่ดี ขอบคุณมาก ตนก็มีแต่เงินเดือน ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ได้มีลูกหลาน ทำธุรกิจที่พักรีสอร์ต มีเงินเดือนเท่านั้นที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ และไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์จากใครทั้งสิ้น อันนี้ตนยืนยันได้ ซึ่งตนได้สวดมนต์ทุกวัน เพราะฉะนั้นตนจะไม่ทำอะไรที่มันผิด ขอให้เข้าใจกันด้วย

ขณะเดียวกัน เรื่องการข่มขู่ผู้ชุนนุมและประเด็นของตำรวจ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องของอัยการและศาล ไปก้าวล่วงไม่ได้ การที่บอกว่าจะใช้อำนาจกับประชาชนเยาวชนเด็กแล้วใช่ที่ควรจะไปหรือไม่ วันนี้กฎหมายมีอยู่ ทุกคนบอกว่าผมใช้อาวุธ ผมไม่เห็นตำรวจถืออาวุธจริงสักคน

รับชมการถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระ พิจารณา “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” วันแรก ที่นี่

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button