ข่าวข่าวภูมิภาค

แจงดราม่า ตำรวจล็อกล้อ รถไอติมช่วงโควิด ยันไม่มีเจตนาซ้ำเติมประชาชน

ดราม่า ตำรวจล็อกล้อ รถไอศกรีมช่วงโควิด ยืนขอร้อง อย่าจับ แต่สุดท้ายไม่รอด ต้นเหตุ แท็กซี่โดนก่อน ท้วงเจ้าหน้าที่รถไอติมคันหลังก็ผิดทำไมไม่จับ

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Yun Toyosang ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กำลังล็อกล้อรถ รถขายไอศกรีม บริเวณหน้าตลาดประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า

น่าเห็นใจ ..”พ่อค้าไอติม” ที่ถูกล็อกล้อรถ ยืนหน้าเศร้า ถกเถียงกับ “คุณตำหนวด” พร้อมอ้อนวอนขอความกรุณา “อย่าจับ” เลย เพราะวันนี้ยังขายไม่ได้ เงินก็ไม่มี หนี้สินก็บานเบอะ แถมเศรษฐกิจก็ผุพัง มาจอดไม่ถึง 2 นาที เพื่อหาเงิน ก็โดนแล้ว ลูก-เมีย ผมรอกินข้าว กำไรวันละไม่ถึง 1 พัน เสียค่าปรับไป ผมหมดตัวแน่!!!

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป หลายคนต่างเข้ามาวิจารณ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกันจำนวนมาก จนล่าสุดวันนี้ (20 ก.ค.) ผู้ใชเฟซบุ๊กท่านเดิม ก็ออกมาโพสต์อธิบายความคืบหน้าพร้อมกับชี้แจงสาเหตุทั้งหมด ดังนี้

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดังกล่าวได้มีการบังคับล้อรถแท็กซี่สาธารณะที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้ารถขายไอศกรีมคันดังกล่าว

จากนั้นทางรถแท็กซี่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมไม่ดำเนินการกับรถรถขายไอศกรีมที่อยู่ทางด้านหลัง จึงได้มีการบังคับล้อรถทั้ง 2 คัน โดยเปรียบเทียบปรับรถแท็กซี่ 200 บาท และรถขายไอศกรีม 100 บาท และว่ากล่าวตักเตือนไป กรณีดังกล่าว เนื่องจากจอดอยู่บริเวณจุดห้ามจอดในบริเวณป้ายรถประจำทาง

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางผู้ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวก็ได้มีการอธิบายให้ทั้งผู้ขับขี่รถแท็กซี่และพ่อค้าไอศกรีมรับทราบ ซึ่งทั้ง 2 ก็เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่ได้มีการเปรียบเทียบปรับเต็มจำนวนแต่อย่างใด

“อย่างไรก็ตาม ทาง ตร.ได้มีนโยบายการบังคับใช้กฎหมายไม่ให้มีการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจซ้ำเติมประชาชนช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 เมื่อเกิดมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจะเน้นการดำเนินการพิจารณาข้อเท็จจริงให้เน้นมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่หากทำให้กระทบกับการจราจรอาจจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นดุลพินิจของผู้ปฏิบัติหน้าที่พิจารณา”

ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีเจตนาซ้ำเติมประชาชนจากการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด และยืนยันว่าเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะไม่เอาการบังคับใช้กฎหมายซ้ำเติมประชาชนอย่างเด็ดขาด

อ้างอิงข้อมูลจาก : Yun Toyosang, MATICHON ONLINE

เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สนใจทำประกันอุบัติเหตุกับ Tadoo คลิกที่นี่

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button