เปิดเงื่อนไข ญี่ปุ่น บริจาค แอสตรา ให้ไทย เหมือนรู้ไต๋รัฐบาล

ไทยเกอร์นิวส์เผยแพร่: 29 มิ.ย. 2564 16:24 น.| อัปเดต: 29 มิ.ย. 2564 17:11 น.

92 1 minute read

เปิดเงื่อนไข ญี่ปุ่น บริจาควัคซีนโควิด แอสตราเซเนกา ให้ไทย 1.05 ล้าน โดส เช่น ห้ามใช้ทางทหาร ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อร้องขอ

ญี่ปุ่นบริจาควัคซีนให้ไทย – สืบเนื่องจาก กรณี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า บ่ายวันนี้ 29 มิ.ย. 2564 ประเทศไทย จะลงนามรับมอบ วัคซีนโควิด ยี่ห้อ แอสตราเซเนกา (Astrazeneca) ที่บริจาคโดยรัฐบาลญี่ปุ่น จำนวน 1.05 ล้านโดส

จากรายงานข่าวระบุว่า วัคซีนแอสตราเซเนก้าลอตที่ไทยได้รับบริจาคนี้ จะมีกำหนดส่งมอบภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2564

ในหนังสือลงนามดังกล่าว ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ลงนาม โดยมีคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการรับมอบวัคซีนแอสตราฯ ดังกล่าว รายงานระบุ

ทั้งนี้ ในร่างหนังสือลงนามแลกเปลี่ยนวัคซีนที่มอบให้รัฐบาลไทยนั้น มีเงื่อนไขมาตรการที่น่าสนใจอยู่ ดังนี้

1. นำวัคซีนโควิด-19 ไปใช้อย่างเหมาะสมและเป็นการเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านสาธารณสุขและการแพทย์ของไทย โดยห้ามใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการทหาร

2. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ยกเว้นรัฐบาลของทั้งสองประเทศจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ ซึ่งครั้งนี้ ไทยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งจากญี่ปุ่น ประมาณ 10-99 ล้านเยน หรือ 2.9-28.7 ล้านบาท โดยกระทรวงสาธารณสุข มีงบประมาณรองรับส่วนนี้ไว้แล้ว

3. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 เมื่อได้รับการร้องขอ

4. ไม่ส่งต่อวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคคล หน่วยงานรัฐบาลอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นการล่วงหน้า

5. รายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ ข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนจะจัดทำโดยหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐบาลญี่ปุ่น คือ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ และหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐบาลไทย คือ กระทรวงสาธารณสุข

ด้าน น.ส.รัชดา ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณในไมตรีจิตและความห่วงใหญ่ของรัฐบาลญี่ปุ่น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้มอบวัคซีนให้กับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ด้วย จะจัดส่งให้ช่วงต้นเดือน ก.ค. โดยก่อนหน้านี้ ได้มอบให้ไต้หวันและเวียดนาม

อ้างอิงจาก :Thaiger, The Standard, ข่าวเวิร์คพอยต์ 23 และ มติชนออนไลน์