ไม่อยู่แล้ว! ตำรวจไม่พบ ลุงพล ที่ บ้าน หลังเจอหมายจับ
เจ้าหน้าที่บุก บ้าน ลุงพล หลังถูกหมายศาลเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจค้นบ้านนานชั่วโมงไม่พบ ลุงพล ขณะที่สื่อเผยเก็บข้าวของไปนานแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการ ฟ้าสางกลางกกกอก นำกำลังไปที่บ้านของ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ที่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร หลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล หรือ นาย ไชย์พล วิภา ฐานความผิด 3 ข้อหา ในคดีฆาตกรรมน้องชมพู่
แต่ปรากฎว่าไม่สามารถจับลุงพลได้ เนื่องจากเมื่อ เจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านของลุงพล ตั้งแต่เวลาเช้าตู่ ตีห้าเกือบ 6 โมงเช้า เฝ้ารอและค้นหากว่า 1 ชั่วโมง ไม่พบตัวลุงพล มีเพียงลูกชายที่อยู่บ้าน จึงถอนกำลังจนท.กลับตอนประมาณ 7 โมงเช้า
เมื่อคืนที่ผ่านมาศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล หรือ นาย ไชย์พล วิภา ฐานความผิด 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป จากคดีฆาตกรรม “น้องชมพู่” เมื่อปีที่ผ่านมา
โดยหลักฐานชิ้นสำคัญที่นำไปสู่ความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ คือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่นักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดมุกดาหาร ได้มา โดยเฉพาะหลักฐานเส้นขน ซึ่งพบเส้นผมน้องชมพู่พับอยู่ในรถลุงพล นอกจากนี้ยังพบเส้นผมของคนใกล้ชิดตกอยู่ในที่เกิดเหตุพบศพน้องชมพู่
ทั้งที่คนใกล้ชิดไม่ได้ขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟตรงกับรายงานการตรวจวิเคราะห์ด้วยเทคนิคการใช้รังสีเอกซเรย์จากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) สอดรับการผลการเข้าเครื่องจับเท็จ ที่สรุปว่านายไชย์พลมีพิรุธในการตอบคำถาม
พยานหลักฐานทั้งหมดของคณะทำงาน ผบ.ตร. บ่งชี้ได้ว่า นายไชย์พลเท่านั้นจะนำตัวน้องชมพู่ไป และมีการทอดทิ้งไว้ในจุดแรก เพื่อกลับมาทำธุระ หาพยานบุคคลอ้างอิง แล้วกลับเข้าไปพาตัวเด็กขึ้นบนเขาภูเหล็กไฟทิ้งไว้ในป่าลึกที่ไม่มีผู้คน เพื่อให้พ้นไปจากตัวเอง เป็นเหตุให้เด็กขาดน้ำ ขาดอาหารถึงแก่ความตาย ก่อนกลับมาจัดฉากอำพรางคดีให้หลงเป็น “เรื่องการฆาตกรรม” ตัดเส้นผมจงใจให้คล้ายเป็นเรื่องไสยศาสตร์ มนตร์ดำของเขมร
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวไทยรัฐระบุว่า ลุงพล พร้อมครอบครัว ได้เก็บข้าวของออกจากพื้นที่กกกอก ไปตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. โดยอ้างว่า จะกลับไปบ้านพ่อของนายไชย์พล ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร