ศาลออก หมายจับ ลุงพล คดีฆาตกรรมน้องชมพู่
ศาลสั่งออก หมายจับ ลุงพล ผิดสามข้อหาในคดีการตายปริศนาของน้องชมพู่ ขณะที่ลุงพลและครอบครัวออกจากพื้นที่กกกอกตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.
ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล หรือ นาย ไชย์พล วิภา ฐานความผิด 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป จากคดีฆาตกรรม “น้องชมพู่” เมื่อปีที่ผ่านมา
โดย นักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดมุกดาหาร ได้เก็บวัตถุพยานหลายอย่าง สำคัญสุดคือ เส้นผมของน้องชมพู่ ที่ถูกหั่นจำนวนหลายเส้น วัตถุพยานดังกล่าวกลายเป็นหลักฐานสำคัญในทันทีที่เจออยู่ในรถของนายไชย์พล และเส้นผมของคนใกล้ชิดไปตกอยู่ในที่เกิดเหตุพบศพ
ทั้งที่คนใกล้ชิดไม่ได้ขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟตรงกับรายงานการตรวจวิเคราะห์ด้วยเทคนิคการใช้รังสีเอกซเรย์จากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) สอดรับการผลการเข้าเครื่องจับเท็จ ที่สรุปว่านายไชย์พลมีพิรุธในการตอบคำถาม
พยานหลักฐานทั้งหมดของคณะทำงาน ผบ.ตร. บ่งชี้ได้ว่า นายไชย์พลเท่านั้นจะนำตัวน้องชมพู่ไป และมีการทอดทิ้งไว้ในจุดแรก เพื่อกลับมาทำธุระ หาพยานบุคคลอ้างอิง แล้วกลับเข้าไปพาตัวเด็กขึ้นบนเขาภูเหล็กไฟทิ้งไว้ในป่าลึกที่ไม่มีผู้คน เพื่อให้พ้นไปจากตัวเอง เป็นเหตุให้เด็กขาดน้ำ ขาดอาหารถึงแก่ความตาย ก่อนกลับมาจัดฉากอำพรางคดีให้หลงเป็น “เรื่องการฆาตกรรม” ตัดเส้นผมจงใจให้คล้ายเป็นเรื่องไสยศาสตร์ มนตร์ดำของเขมร
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวจากบ้านในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ก่อนจะพบเป็นศพอยู่ในป่าบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านราว 2 กม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.63
จากคดีดังกล่าวได้ทำให้ ลุงพล กลายเป็นที่โด่งดังเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่ชาแนลยูทูป รวมไปถึงได้ร่วมงานกับศิลปินดังอย่าง จินตหรา พูนลาภ จนมียอดวิวชมเพลง เต่างอย กว่า 22 ล้านวิว ขณะนี้ ลุงพล พร้อมครอบครัว ได้เก็บข้าวของออกจากพื้นที่กกกอก ไปตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. โดยอ้างว่า จะกลับไปบ้านพ่อของนายไชย์พล ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร