สรุปข้อมูลครบ คนละครึ่งเฟส 3 ยิ่งใช้ยิ่งได้ ลงทะเบียนวันไหน เงื่อนไข
สรุปข้อมูลโครงการ คนละครึ่งเฟส 3 ยิ่งใช้ยิ่งได้ ช่วยเหลือประชาชนช่วงโควิด รวมถึงการเพิ่มเงินสนับสนุนค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคบัตรคนจน และกลุ่มพิเศษ อีก 1,200 บาท
คนละครึ่งเฟส 3 ยิ่งใช้ยิ่งได้ – นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผย ภายหลัง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ การดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งประกอบด้วย 4 โครงการ ได้แก่
- เพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 3 เพิ่มเงินให้เดือนละ 200 บาทต่อคนต่อเดือน 6 เดือน รวม 1,200 บาท ครอบคลุม 13.65 ล้านคน
- คนละครึ่งเฟส 3 (คลิกอ่านรายละเอียดการลงทะเบียน)
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มเปราะบาง ไม่มีสมาร์ทโฟน) ให้เดือนละ 200 บาทต่อคนต่อเดือน 6 เดือน รวม 1,200 บาท ครอบคลุม 2.5 ล้านคน
- โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้
โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ คืออะไร
โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนล่าสุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจกำลังซื้อภายในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้ได้รับสิทธิไม่เกิน 4 ล้านคน ที่ชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการ
ผู้ได้รับสิทธิ์ ยิ่งใช้ยิ่งได้ จะได้รับวงเงินสนับสนุนในรูปของบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) โดยวงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ e-Voucher สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 10 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ e-Voucher จะคืนเป็นวงเงินใน g-Wallet ทุกต้นเดือนถัดไป โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
วงเงินสำหรับการดำเนินโครงการรวม 28,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นเงิน 268,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทะเบียนและการใช้จ่ายของโครงการ คนละครึ่งเฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีรายละเอียดและระยะเวลาดำเนินโครงการในเบื้องต้น ดังนี้
สรุปข้อมูล คนละครึ่งเฟส 3 และ ยิ่งใช้ยิ่งได้
คนครึ่งเฟส 3 และ ยิ่งใช้ยิ่งได้ใครมีสิทธิ์ลงทะเบียนบ้าง
ประชาชนสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีบัตรประจำตัวประชาชน
คนครึ่งเฟส 3 ลงทะเบียนวันไหน
14 มิถุนายน 2564 06.00 น. – 22.00 น. ผ่าน คนละครึ่ง.com
ยิ่งใช้ยิ่งได้ลงทะเบียนวันไหน
21 มิถุนายน 2564 06.00 น. – 22.00 น. ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
*ผู้ที่เคยใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือเว็บไซต์ของโครงการก็ได้ตามต้องการ ส่วนประชาชนที่ไม่เคยใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ของโครงการข้างต้น
ทั้งนี้ หากผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 หรือโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ประสงค์จะเปลี่ยนไปรับสิทธิอีกโครงการหนึ่งแทน จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิอีกโครงการหนึ่ง ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 และถือเป็นการสละสิทธิโครงการที่ได้รับสิทธิเดิม
การยืนยันตัวตนกับ ATM กรุงไทย สำหรับคนละครึ่งเฟส 3 และ ยิ่งใช้ยิ่งได้
ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย
ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext และเมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมแต่ละโครงการได้ในเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
ทั้งนี้ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายเงินเพื่อนำมาคำนวณสิทธิได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และใช้ e-Voucher ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่งเฟส 3 เริ่มวันไหน
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 หรือโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น. – 22.00 น. โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง .com หรือ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้ .com ตามต้องการ หรือสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ
กระทรวงการคลังคาดว่า การดำเนินการโครงการทั้ง 4 โครงการดังกล่าว ครอบคลุมประชาชน 51 ล้านคนจะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวน 473,000 ล้านบาท อีกทั้งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2564
อ้างอิงจาก : สถานีข่าวกระทรวงการคลัง