สุขภาพและการแพทย์

ศูนย์ไวรัส จุฬาฯ ชี้ โควิด ‘คลัสเตอร์ทองหล่อ’ เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ระบาดเร็วขึ้น 1.7 เท่า!

ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ชี้ผลการตรวจพันธุกรรม พบ โควิดที่ระบาด ‘คลัสเตอร์ทองหล่อ’ เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ระบาดรวดเร็วกว่าโควิดสายพันธ์ปกติ 1.7 เท่า! และปริมาณไวรัสในผู้ป่วยผู้แม้จะไม่มีอาการ

โควิดทองหล่อ สายพันธุ์อังกฤษ – จากกรณีการระบาดของโควิดระลอกใหม่ล่าสุด ที่กลุ่มผู้ติดเชื้อหลายรายเดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ จนเกิดเป็น ‘คลัสเตอรสถานบันเทิงทองหล่อ’ นั้น ล่าสุด ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana เป็นเอกสารผลการทบสอบเชื้อโควิดของ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้จากผู้ติดเชื้อที่ท่องสถานบันเทิงทองหล่อ พบมีรหัสพันธุกรรมสายพันธุ์อังกฤษ

Advertisements

รายละเอียด มีดังนี้

ศูนย์เชียวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการตรวจพันธุกรรม SARS -CoV-2 จากตัวอย่างบางแค และทองหล่อ ด้วยวิธี Specific probe Real Time RT-PCR เพื่อแยกสายพันธุือังกฤษกับสายพันธุ์ปกติ (Wild type)

แสดงให้เห็นว่า สายพันธุ์ที่พบในการระบาดขณะนี้ของสถานบันเทิงที่ทแงหล่อ เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ที่จะทำให้เกิดการระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ปกติ 1.7 เท่า และปริมาณไวรัสในผู้ป่วยผู้แม้จะไม่มีอาการ จะมีปริมาณไวรัสที่สูงมาก จากกการสังเกต ค่า Ct ของสายพันธุ์สถานบันเทิง ก็เห็นได้ชัด

สรุป สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ที่สถานบันเทิง คือสายพันธุ์อังกฤษ

โควิดทองหล่อ สายพันธุ์อังกฤษ

Advertisements

ขอบคุณข้อมูลจาก Anan Jongkaewwattana คลิกดูโพสต์ต้นฉบับ

(เพิ่มเติมจากผู้เขียน สายพันธุ์อังกฤษข้างต้น คือ สายพันธ์อังกฤษ B117)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกี่ยวพันกับทองหล่อ

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button