แบงค์ชาติ แถลงข่าวภาพรวม เศรษฐกิจ – การเงิน ประเทศไทย เดือน ม.ค. 64
![แบงค์ชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท.](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2021/02/vdoPoster.jpg)
ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงค์ชาติ ได้ทำการแถลงข่าวสรุปภาพรวมของ เศรษฐกิจ และ การเงิน ของ ประเทศไทย ประจำเดือนมกราคม ปี 2564 โดยมองว่าได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน แต่ไม่รุนแรงเท่ารอบแรก
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงค์ชาติ ได้ทำการแถลงข่าวสรุปภาพรวมของ เศรษฐกิจ และ การเงิน ของ ประเทศไทย ประจำเดือนมกราคม ปี 2564 โดยมองว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้การฟื้นตัวนั้นยังคงไม่ทั่วถึง แต่ผลกระทบในภาพรวมนั้นถือว่าไม่รุนแรงเท่ารอบแรก
โดยในภาคส่วนที่ยังคงแย่นั้นก็ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวลงในทุกหมวด, กำลังซื้อของครัวเรือนที่ลดลงทั้งจากการระบาดเอง และมาตรการควบคุมที่เข้มงวดในบางพื้นที่ และกิจกรรม รวมไปถึงในส่วนของภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงหดตัวลงเนื่องด้วยมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ
ในภาคส่วนที่ถือว่าดีขึ้นมาในระดับหนึ่งนั้นก็เช่น การส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำขยายตัวดีขึ้นตามทิศทางของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า, การใช้จ่ายของภาครัฐที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง
ในส่วนของรายละเอียดโดยคร่าว ๆ นั้นก็พอจะอธิบาย และแบ่งย่อยออกเป็นหลายหัวข้อดังนี้
- เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน – กลับมาหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ตามการใช้จ่ายที่ปรับตัวแย่ลงในทุกหมวด โดยเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19 ที่ส่งผลในหลาย ๆ ด้าน ประกอบกับมาตรการควบคุมของภาครัฐทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง ทั้งนี้นั้นยังถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าในระลอกแรกที่เกิดขึ้น
- การผลิตภาคอุตสาหกรรม – หดตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยการหดตัวมาจากการผลิตหมวดปิโตรเลียม หมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดยานยนต์เป็นสำคัญ
- จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ – หดตัวสูงต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่ ประกอบกับการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในประเทศส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยยังมีจำนวนไม่มาก แม้ภาครัฐได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศไปบ้างแล้วในช่วงก่อนหน้า
- มูลค่าการส่งออกสินค้า – หดตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการส่งออกทองคำที่หดตัวจากผลของฐานสูงในปีก่อน มูลค่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ 5.5 โดยเป็นการขยายตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า
- มูลค่าการนำเข้าสินค้า – กลับมาหดตัวร้อยละ 6.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการนำเข้าทองคำที่กลับมาขยายตัว มูลค่าการนำเข้าหดตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 11.1
- การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอน – ขยายตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยรายจ่ายประจำกลับมาขยายตัวตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ สำหรับรายจ่ายลงทุนขยายตัวชะลอลงตามการเบิกจ่ายของรัฐบาลกลาง ขณะที่การเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจกลับมาขยายตัวได้
- เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน – ขยายตัวชะลอลงจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ปรับตัวแย่ลงในทุกองค์ประกอบย่อย สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ปรับลดลงจากผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ สำหรับการลงทุนหมวดก่อสร้างหดตัวน้อยลง ตามยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่กลับมาขยายตัว ส่วนหนึ่งจากผลของฐานต่ำในปีก่อน
- ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ – อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาอาหารสดที่ปรับลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ด้านตลาดแรงงานปรับตัวแย่ลงจากผลของการระบาดระลอกใหม่ ส่วนหนึ่งสะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิว่างงานใหม่ในระบบประกันสังคมที่สูงขึ้น
- สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยดุลการค้าเกินดุลลดลงจากการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลงจากเดือนก่อน
แหล่งที่มาของข้อมูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ