เช็คเลย ไทยฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 แสนโดสแรก 13 จังหวัด
เช็คเลย ไทยฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 แสนโดสแรก 13 จังหวัด กลุ่มที่ได้ฉีดลอตแรกที่ใครบ้าง
อัปเดตความคืบหน้าแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ซึ่งพรุ่งนี้วัคซีนซิโนแวค 2 แสนโดนจากจีนจะถึงไทย และ อย. รองรับวัคซีนดังกล่าวแล้ว โดยแผนกระจายวัคซีนลอตแรก 2 แสนโดสนั้น มีแผนจะกระจายการฉีดใน 13 จังหวัด ประกอบด้วย
พื้นที่ควบคุม
1. สมุทรสาคร จำนวน 70,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 8,000 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 6,000 โดส ผู้ที่มีโรคประจำตัว 46,000 โดส และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 10,000 โดส
2. กรุงเทพฯ (ฝั่งตะวันตก) 66,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 12,400 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 1,600 โดส ผู้ที่มีโรคประจำตัว 47,000 โดส และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 5,000 โดส
3. ปทุมธานี 8,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 3,000 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 2,000 โดส ผู้ที่มีโรคประจำตัว 2,000 โดส และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 1,000 โดส
4. นนทบุรี 6,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 2,000 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 1,000 โดส ผู้ที่มีโรคประจำตัว 2,000 โดส และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 1,000 โดส
5. สมุทรปราการ 6,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 2,000 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 1,000 โดส ผู้ที่มีโรคประจำตัว 2,000 โดส และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 1,000 โดส
6. อ.แม่สอด ตาก 5,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 3,000 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 2,000 โดส
7. นครปฐม 3,500 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 2,500 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 1,000 โดส
8. สมุทรสงคราม 2,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 1,500 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 500 โดส
9. ราชบุรี 2,500 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 2,000 โดส เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย 500 โดส
พื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม
10. ชลบุรี 4,700 โดส
11. ภูเก็ต 4,000 โดส
12. อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 2,500 โดส และ
13. เชียงใหม่ 3,500 โดส
*4 จังหวัดหลังใครได้ฉีดบ้าง มอบคระกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาจัดสรรจำนวนวัคซีนให้แต่ละกลุ่มเป้าหมายตามสถานการณ์และบริบทของแต่ละพื้นที่
*16,300 โดส สำรองไว้สำหรับควบคุมการระบาดและฉีดให้บุคลากรในโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19
โดยกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ที่จะได้ฉีดวัคซีนก่อน ประกอบด้วย
1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน
2. บุคคลที่มีโรคประจำตัว
โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหอบหืดที่ควบคุมได้ไม่ดี เป็นต้น
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 ที่ได้รับการบำบัดทดแทนไต
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด
โรคเบาหวาน
โรคอ้วน ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
3. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
4. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย