การเงิน

คลัง แถลง! ความคืบหน้าและ ทบทวนสิทธิ์ เราชนะ

กระทรวงการคลัง ได้ทำการประกาศถึงความคืบหน้าในการลงทะเบียนสำหรับกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ (กลุ่มพิเศษ) และการ ทบทวนสิทธิ์ ของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ภายในโครงการ เราชนะ

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าทางกระทรวงการคลัง ได้มีการชี้แจงถึงความคืบหน้าภายในโครงการ เราชนะ ในส่วนของนการลงทะเบียนสำหรับกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ (กลุ่มพิเศษ) ที่มีการปรับปรุงการดำเนินการเพื่อสะดวกต่อการจัดการ และเข้าถึงผู้คนที่ต้องการได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งในส่วนของการ ทบทวนสิทธิ์ ของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในรอบลงทะเบียนก่อนหน้านี้

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง โดยในสองวันแรกมีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 218,344 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น.)

ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่สนใจและประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 และไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ์

นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทยได้จัดระบบการลงทะเบียนโครงการฯ ที่สาขาจำนวน 1,023 แห่งทั่วประเทศและจุดบริการเคลื่อนที่จำนวน 871 จุดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่มีความประสงค์จะลงทะเบียน

โดยแต่ละสาขาหรือจุดบริการจะแจกบัตรคิวลงทะเบียนตามจำนวนประชาชนที่สามารถรองรับได้สูงสุดในแต่ละวัน ส่วนประชาชนที่เข้ามาติดต่อขอลงทะเบียนที่เกินจากจำนวนนั้น ธนาคารจะแจกบัตรคิวและนัดหมายเพื่อให้มาลงทะเบียนในวันหลัง โดยจะระบุวันและเวลาที่แน่นอน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกแจ้งข่าวสารของโครงการฯ ให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน

สำหรับประชาชนในกลุ่มผู้มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และกลุ่มที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ตรวจสอบสถานะแล้วพบว่าไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติสามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ์ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 8 มีนาคม 2564

โดยผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 จะทราบผลการทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 4 มีนาคม 2564 และผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 จะทราบผลการทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 19 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 (แบบฯ) ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกรมสรรพากรภายใน 7 วัน นับแต่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 8 มีนาคม 2564

อย่างไรก็ดี ผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2564 จะต้องยื่นแบบฯ ภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 โดยผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและยื่นแบบฯ แล้ว จะสามารถทราบผลการคัดกรองได้ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564

ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่ามีประชาชนหรือร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โฆษกกระทรวงการคลังจึงขอความร่วมมือร้านค้า ผู้ให้บริการรายย่อยและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ

ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายในประเด็นดังกล่าวแล้วหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชันของร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อย ตลอดจนการจ่ายเงินให้กับร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยทันที และอาจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ร้านค้าโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่ถูกระงับใช้เครื่อง EDC หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถติดต่อและให้ข้อมูลได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยหรือส่งข้อมูล รวมถึงชื่อสถานประกอบการ ชื่อและนามสกุลของเจ้าของสถานประกอบการ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ถ้ามี) หมายเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของสถานประกอบการ และหมายเลขเครื่อง EDC (ถ้ามี) และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ มาที่ wewin@fpo.go.th โดยเร็วเพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง

สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button