ศรีสุวรรณ แถลงเข้าพบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ปม พิมรี่พาย
ศรีสุวรรณ เข้าพบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อพูดถึงบ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย หลังจากที่ พิมรี่พาย ได้เดินทางเข้าไปบริจาคสิ่งของในพื้นที่ดังกล่าว
ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะลดโลกร้อน ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ตนได้เข้าพบกับ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯกรณีบ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย เพื่อหารือเกี่ยวกับ บ้านแม่เกิบ หลังจากที่ พิมรี่พาย เน็ตไอด้อลชื่อดังที่เข้าไปบริจาคสิ่งของ จนกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ” ตามที่มีผู้ใจบุญนามพิมรีพายควักเงินส่วนตัวกว่าครึ่งล้านไปจัดกิจกรรมเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับเด็กๆชนเผ่ากะเหรี่ยงโดยการติดตั้งโซล่าเชลล์เพิ่มแสวงสว่างให้พร้อมกับกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ณ หมู่บ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ จนกลายเป็นท็อคออฟเดอะทาวน์อยู่ในขณะนี้นั้น
แต่เนื่องจากหลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าหมู่บ้านแม่เกิบนั้น เมื่อดูภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังไปไม่เกิน 7 ปีก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีบ้านเรือนผู้คนอยู่อาศัย ยังไม่มีโรงเรียนหรือศูนย์การศึกษาใดๆอยู่ทั้งสิ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าหมู่บ้านแม่เกิบเพิ่งมีการรวมตัวกันเป็นหมู่บ้านใหม่ขึ้นมานั่นเอง
เมื่อพิจารณาต่อไปก็จะพบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าป่าอมก๋อย ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกาออกมาใช้บังคับตั้งแต่ 19 ส.ค.2526 แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าหมู่บ้านแม่เกิบจึงมิใช่ชุมชนท้องถิ่นดังเดิมแต่อย่าใด หากแต่น่าจะเพิ่งมีการอพยพโยกย้ายมาอยู่บริเวณดังกล่าวในระยะเวลาไม่นานตามหลักฐานภาพถ่ายทางดาวเทียม
แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ม.70 ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “รัฐพึงส่งเสริมและให้ความคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ให้มีสิทธิดํารงชีวิต ในสังคมตามวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตดั้งเดิมตามความสมัครใจได้อย่างสงบสุข ไม่ถูกรบกวน ทั้งนี้ เท่าที่ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ หรือสุขภาพอนามัย” ดังนั้นภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องยุติการปล่อยวางให้มีการอพยพโยกย้ายตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าต่างๆได้อีกต่อไป หากแต่จะต้องเร่งรีบในการจัดการกำหนดพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้านเหล่านั้นให้สอดคล้องกับแนวคิด “คนอยู่กับป่า”ให้จงได้ โดยออกพระราชกฤษฎีกากันพื้นที่ดังกล่าวออกมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตอุทยานแห่งชาติเสีย เพื่อที่จะได้พัฒนา และส่งเสริมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเขาเหล่านั้นตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมากังวลว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐตั้งข้อหา “บุกรุกป่า” อีกต่อไป
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงจะเข้าพบ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันพุธที่ 13 ม.ค.64 เวลา 14.30 น. ณ กระทรวงทรัพยากรฯ ถ.พหลโยธิน ซ.7 เขตพญาไท เพื่อหาข้อยุติและผลักดันให้รัฐบาลเร่งจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเสียโดยไว เพราะเราไม่อาจปล่อยวางให้มีข้อขัดแย้งในทางกฎหมายและข้อปฏิบัติในเชิงพื้นที่อีกต่อไป”