ข่าว

นายกรัฐมนตรี แถลง ‘การระบาดอีกครั้งของโควิด เราต้องเข้มแข็ง’

22 ธันวาคม 2563 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแถลงการณ์ “การระบาดอีกครั้งของโควิด – เราต้องเข้มแข็ง” ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการระบาดใหม่ของโควิด-19 ที่เพิ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ถูกจัดการอย่างเร่งด่วนทันทีด้วยการใช้มาตรการที่เข้มข้น พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การระบาดที่เกิดใหม่นี้ย้ำว่า โควิด-19 ยังเป็นภัยร้ายแรงสำหรับประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ สถานการณ์โควิดทั่วโลกก็รุนแรงและกะทันหันด้วย ไม่กี่วันก่อนอังกฤษยืนยันพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคนภายในแค่สัปดาห์เดียวและพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ในประเทศอื่น ๆ ด้วย ซึ่งสถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลกในเดือนธันวาคมเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดมา หลายประเทศรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดเป็นร้อย ๆ คนภายในสัปดาห์เดียว และมีบางประเทศที่เสียชีวิตเป็นพัน ๆ คนภายในหนึ่งสัปดาห์

Advertisements

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงสถานการณ์โควิดทั่วโลกที่ส่งผลกระทบไม่ดีถึงประเทศไทย ผลกระทบแรก คือเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ที่จะช้ากว่าที่คาดการณ์ตามไปด้วย ผลกระทบที่สอง คือ ยังคงต้องระมัดระวังมาตรการการผ่อนคลายให้คนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยต่อไปอีก ความเสี่ยงสุดคือคนต่างชาติที่เข้าประเทศไทยอาจจะนำเชื้อโควิดเข้ามาในประเทศซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับระบบสาธารณสุขของไทย และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจมากกว่าที่มีอยู่หลายเท่า จึงต้องเข้มงวดและระมัดระวังเต็มที่ทั้งที่สนามบินและช่องทางเข้าประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟ รถบัส เรือรวมถึงช่องทางธรรมชาติ หากมีผู้ติดเชื้อ โควิดเล็ดลอดเข้าประเทศมาเพียงไม่กี่คนจะสร้างปัญหาอย่างหนักให้กับเศรษฐกิจ และสุขภาพของคนนับแสน ๆ ผลกระทบที่สาม คือ เมื่อสถานการณ์ทั่วโลกยิ่งแย่ลง ทำให้ยิ่งต้องตั้งการ์ดให้สูงขึ้น เพิ่มและปรับมาตรการต่าง ๆ ให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่สมุทรสาครว่า ปัจจุบันมีการกักกันและอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเชิงรุก ซึ่งจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ทั้งการทำกิจกรรมต่าง ๆ การตรวจคัดกรอง การเข้า-ออกสถานที่ การเว้นระยะห่าง ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องประกาศมาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะกิจกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่ ซึ่งจะมีมาตรการอย่างไรหรือต้องงดจัด ในสัปดาห์นี้จะประชุมกับ ศบค. และจะออกมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ถ้าอ่อนหรือผ่อนคลายมาตรการมากเกินไป โควิดจะสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจที่มากกว่านี้และกระทบทั้งประเทศ ซึ่งหลายประเทศตอนนี้เริ่มกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวด ทั้งการบังคับไม่ให้ประชาชนออกจากบ้าน การออกข้อกำหนดมากมายสำหรับคนที่ต้องการเข้าประเทศ ร้านค้าร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องปิด รวมถึงปิดสถานที่บันเทิงและสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ด้วย หรือบางประเทศอย่างฝรั่งเศส ถึงขั้นห้ามไม่ให้มีการขนส่งสิ่งของ เข้าและออกประเทศเป็นการชั่วคราว

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงต้นปีที่ผ่านมาตอนที่โควิดเริ่มเป็นภัยร้ายแรงของโลก มีประเทศที่ไม่เข้มงวดปกป้องดูแลสุขภาพและสาธารณสุขเพราะกังวลว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของตนเอง ปัจจุบันเจอผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจทั้งสิ้น เพราะสุดท้ายแล้วการระบาดของโควิดทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ เมื่อคนเป็นโควิดเยอะ สุดท้ายก็สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ ฉะนั้นการเข้มงวดเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและสาธารณสุขของประเทศ จึงเป็นวิธีที่จะปกป้องความเสียหายต่อเศรษฐกิจไม่ให้รุนแรงมากกว่าที่เรากำลังเจออยู่

นายกรัฐมนตรีเน้นถึงเหตุผลที่ไทยเจอปัญหาเศรษฐกิจที่เบากว่าประเทศอื่น ๆ หลายประเทศว่า ตั้งแต่ต้นไทยเข้มงวดการปกป้องดูแลสุขภาพของประชาชน จึงยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเกือบเป็นปกติ โรงพยาบาลและสถานสาธารณสุขต่าง ๆ ยังทำงานกันได้ตามปกติ ดูแลคนไข้โรคอื่น ๆ ได้ โดยไม่ถูกคนไข้โควิดรบกวน ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนไทยไม่ต้องเจอกับการสูญเสียชีวิตของพ่อแม่พี่น้องลูกหลานไปกับโควิด ซึ่งเป็นฝันร้ายที่คนในหลายประเทศทั่วโลกยังต้องเจอกันอยู่ทุกวัน โดยต้องยกความดีความชอบให้ประชาชนคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมือ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความรับผิดชอบต่อสังคม เสียสละความสะดวกสบายส่วนตัว เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมกันต่อไป สวมหน้ากากอนามัยกันอยู่ตลอด ล้างมือบ่อย ๆ เป็นประจำ และรักษาระยะห่างทางสังคม พร้อมชื่นชมการทำงานอย่างหนักของอาสาสมัครสาธารณสุข บุคลากรสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐทุกส่วนที่ร่วมมือกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เพียงคนไม่กี่คนที่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว จะสร้างปัญหาให้คนเป็นล้าน ๆ จึงต้องขอให้คนไทยทุกคนใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับที่สูงมากกว่าปกติ และขอให้ทำด้วยความภูมิใจว่า สิ่งที่ทำทุกวัน ทุกวันแม้จะดูเล็กน้อยแต่มีผลกับทั้งประเทศ สร้างความแตกต่างให้ประเทศไทยได้ ทุกคนได้มีส่วนช่วยกันทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าอีกหลายประเทศ นายกรัฐมนตรียืนยันขบวนการนำแรงงานเถื่อนเข้าประเทศจะต้องถูกดำเนินคดี ถูกทำลายให้สิ้นซากไม่ว่าจะเป็นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพราะการแพร่ระบาดครั้งนี้ ตรวจพบผู้ติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าวมากที่สุด

Advertisements

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวมั่นใจว่า แม้ว่าเส้นทางจะยังยาวไกลกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ หากทุกคนยังร่วมมือกัน ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่รับผลกระทบน้อยที่สุดในโลก เราเป็นประเทศที่ประชาชนรู้ว่าเราพึ่งพาตัวเองได้ และหวังพึ่งพาคนอื่น ๆ ในสังคมได้ด้วย ขอให้ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมกำชับดูแลให้มั่นใจว่า หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ จะยังคงทำงานแบบบูรณาการและใกล้ชิดกัน ให้ทุกฝ่ายยึดมั่นรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข และจะเร่งจัดหาและพัฒนาวัคซีนให้พร้อมใช้งานเร็วที่สุดเท่าที่จะเร่งได้ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาให้ผู้พัฒนาวัคซีนที่ดีที่สุดในโลกรายหนึ่ง มาตั้งศูนย์ผลิตวัคซีนในประเทศไทย ในช่วงโควิดนอกประเทศไทยรุนแรงขึ้นอีก จึงยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น ขอคนไทยทุกคนให้ความร่วมมือ และอยู่เคียงข้าง ต่อสู้ไปด้วยกัน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปให้ได้

ที่มา: รัฐบาลไทย

ไทยเกอร์นิวส์

นำเสนออัปเดตข่าวสารบ้านเมือง ข่าวล่าสุด มั่นใจว่าคุณจะทันทุกสถานการณ์ ไม่ว่า สังคมเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง เรื่องร้อนออนไลน์ ดราม่าดารา อัปเดตบันเทิง ซีรีส์ หนัง เพลง ท่องเที่ยว กีฬา ตรวจหวย เลขเด็ด พร้อมเสิรฟ์ทุกเรื่องยาก ๆ ย่อยให้คุณเข้าใจง่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button