ครม. เคาะ ปล่อยเงินกู้ให้เมียนมา 1.4 พันล้าน
ครม. เคาะ ปล่อยเงินกู้ให้เมียนมา 1.4 พันล้าน หวังดึงดูดนักลงทุน
วันที่ 14 ก.ค. 63 มีมติประชุม ครม. เห็นชอบ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน (Concessional Loan) ทั้งจำนวน วงเงินกู้ จำนวน 1,458.248 ล้านบาท
อนุมัติให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2566 รวมระยะเวลา 3 ปี รวมวงเงินที่จะขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณทั้งสิ้นเท่ากับ 729.124 ล้านบาท
ดังนี้ ปีงบประมาณ พ.ศ. การจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ. (ล้านบาท)
2564 – 145.000
2565 – 401.000
2566 – 183.124
รวม = 792.124
มอบหมาย สพพ. ดำเนินการกู้เงิน จำนวน 729.124 ล้านบาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด กรณีเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ. ตามจำนวนที่ชำระหนี้ ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อน และเมื่อ สพพ. สามารถเรียกเก็บหนี้ได้จะนำเงินดังกล่าวส่งคืนคลังต่อไป
การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมาสำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้งดังกล่าวส่งผลดีต่อทั้งเมียนมาและไทย สำหรับเมียนมา โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจำหน่ายไฟฟ้า สามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเมียนมา อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ
สำหรับไทย การให้ความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการผลิต การค้า และบริการของผู้ประกอบการไทย รวมถึงการจ้างงานในประเทศไทย อีกทั้งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนชาวไทยให้เข้าไปลงทุนในเมียนมามากขึ้น เนื่องจาก สพพ. ได้กำหนดเงื่อนไขให้เมียนมาใช้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ จากประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าสัญญา รวมทั้งกำหนดให้ใช้บริการผู้รับเหมาก่อสร้างและวิศวกรควบคุมงานจากประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินโครงการ อีกทั้งสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลไทยเคยให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาผ่าน สพพ. มาแล้ว 1 ครั้ง โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (24 ธันวาคม 2562) อนุมัติการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (เงินกู้) แก่เมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 3 ในส่วนของเมืองเมียวดี นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังเคยให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาในลักษณะเงินให้เปล่าด้วย โดยคณะรัฐมนตรีมีมติ (4 มิถุนายน 2558) อนุมัติเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่เมียนมา จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอด พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 (กรมทางหลวง)
ในประเด็นที่ สพพ. จะขอให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ. ตามจำนวนที่ชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อนในกรณีที่เมียนมาผิดนัดชำระหนี้ นั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติ (24 ธันวาคม 2562) เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 3 ในส่วนของเมืองเมียวดี โดยในกรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ให้ กระทรวงการคลัง โดย สพพ. พิจารณาใช้เงินสะสมของหน่วยงานในการชำระต้นเงินและดอกเบี้ยคืนแหล่งเงินกู้เป็นลำดับแรก ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเห็นควรให้ สพพ. ใช้เงินสะสมของหน่วยงานในการชำระต้นเงินและดอกเบี้ยคืนแหล่งเงินกู้เป็นลำดับแรก และกำหนดแนวทางและวิธีการบริหารจัดการเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต