ปลูกกะหล่ำปลีให้ประสบผลสำเร็จในแบบฉบับของผู้ใหญ่ใจ
ใกล้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวอย่างภูทับเบิ
นายใจ แซ่เถา หรือผู้ใหญ่ใจ เกษตรกรผู้มีความเชี่
สายพันธุ์กะหล่ำปลีเจียไต๋ ที่เกษตรกรนิยมปลูก
- T523 – แข็งแรงทนโรค ปลูกได้ทุกพื้นที่ เก็บแขนงได้
กะหล่ำปลี T-523 ทนโรค ทนฝน สามารถปรับตัวได้ดีในทุกสภาพการเพาะปลูก ปลูกแล้วได้ผลิตผลแน่นอน จุดเด่นคือ เป็นสายพันธุ์ที่สามารถเก็ บแขนงได้ และยังเป็นที่ต้ องการของตลาดโดยทั่วไป มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้า - T530 – ห่อหัวแน่น น้ำหนักดี ทนขนส่ง ปลูกได้ทุกฤดู
กะหล่ำปลี T-530 สามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้เร็ว ห่อหัวแน่น น้ำหนักดี ผลิตผลต่อไรสูง ทนโรคและทนฝน อีกทั้ง ยังทนต่อการขนส่ง เป็นที่ต้องการของตลาด มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65วันหลังย้ายกล้า - Passion – ปลูกง่าย ทนโรค หัวใหญ่
กะหล่ำปลี Passion สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ประกอบอาหารได้หลากหลายโดยให้รสชาติดี หรือทานสดเป็นผักเคียง สายพันธุ์นี้ต้อบโจทย์ได้หมด จึงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะร้านอาหาร ภัตตาคาร ทนโรค มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65วันหลังย้ายกล้า
สายพันธุ์ทั้งหมดข้างต้นเป็
ฤดูกาลที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก
- ช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม ถึง กันยายน) เป็นฤดูกาลหลักของกะหล่ำปลี เพราะเกษตรกรที่ปลูกบนดอยอาศัยน้ำฝนเป็นหลักในการเจริญเติบโตของกะหล่ำปลี ซึ่งเกษตรกรจะเริ่มเพาะกล้าในช่วงพฤษภาคม
- ช่วงปลายฝนต้นหนาว (สิงหาคม ถึง พฤศจิกายน) จากแปลงที่ปลูกในฤดูฝน เกษตรกรจะลงปลูกรอบต่อไปเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวต่อ
- ช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์) พอหมดช่วงฤดูฝนและเข้าฤดูหนาว เกษตรกรก็จะเริ่มย้ายลงมาปลู
กบนพื้นราบที่อยู่บนดอย เพื่อหาพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ เนื่องจากบนเขาสูงไม่สามารถปลู กได้เพราะน้ำไม่เพียงพอ
ปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์
1 ไร่ ใช้ 1 กระป๋อง (50 กรัม) สามารถปลูกได้ประมาณ 10,000-12,000 ต้น
ผลิตผลต่อไร่ (ปริมาณผลิตผลขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เพาะปลูก)
- ฤดูฝน โรคแมลงจะเยอะ ได้ผลิตผลประมาณ 6-7 ตัน
- ฤดูหนาว โรคแมลงไม่ค่อยมี ได้ผลิตผลประมาณ 8-10 ตัน
“ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ควบคู่กับการสนับสนุนที่ดีจากเจียไต๋ ทำให้ผมก้าวมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้” ผู้ใหญ่กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ใจไม่เก็บความสำเร็จไว้เพียงผู้เดียว หากส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนด้วยการขยายการปลูกกะหล่ำปลีสู่เครือข่ายเพื่อนเกษตรกร ทั้งยังเป็นแกนนำในการเจรจาธุรกิจเพื่อกระจายผลิตผลสู่ตลาดรายใหญ่ทั่วประเทศอย่างเป็นธรรม และด้วยความคิดที่ไม่หยุดพัฒนาและเรียนรู้ ในอนาคตผู้ใหญ่ใจมีเป้าหมายในการพัฒนาวิธีการเพาะปลูกโดยปรับเปลี่ยนจากการเพาะในดินกลางแจ้ง ตอนนี้ได้เริ่มหันมาเพาะในโรงเรือนมากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ เพื่อให้ได้ผลิตผลที่ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด และเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกๆ ฝ่ายทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค
ผู้ใหญ่ใจกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมเลือกเจียไต๋ เพราะมั่นใจในคุ
สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลั