ฟุตบอลไทย

สมาคมฯ ประชุมแผนพัฒนาฟุตบอลไทยทุกระดับ – เตรียมพร้อมหลังจบโควิด-19

สมาคมฯ ประชุมแผนพัฒนาฟุตบอลไทยทุกระดับ – เตรียมพร้อมหลังจบโควิด

19 พฤษภาคม – เมื่อเวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.ต.อ .ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานการประชุมแผนพัฒนาฟุตบอลไทย ร่วมกับฝ่ายพัฒนาเทคนิค ประจำเดือนพฤษภาคม 2563 ให้เป็นไปตามนโยบาย Moving Forward

โดยมีการติดตามการดำเนินการทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของฝ่าย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาฟุตบอลไทยทุกระดับ หลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ รักษาการเลขาธิการฯ พร้อมด้วย มร.การ์เลส โรมาโกซ่า ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค (Technical Department) และ เชน ขำวิลัย หัวหน้าฝ่ายเทคนิคและทีมชาติ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

ภายหลังการประชุม “บิ๊กโจ” พาทิศ เผยว่า “การประชุมในวันนี้ ถือเป็นการอัพเดตการทำงานของฝ่ายเทคนิค เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานเมื่อถึงเวลาที่ฟุตบอลกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง”

“ซึ่งหัวข้อการประชุมหลักๆ ก็ได้แก่ โครงการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชน (Youth Development) และฟุตบอลรากหญ้า (Grassroots) โดยเรื่องสำคัญก็คือ จะมีการลงทะเบียนอคาเดมีใหม่อีกครั้ง เพื่อนำข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลฟุตบอลไทยที่สมาคมฯ เตรียมไว้ เพื่อเก็บสถิติและประวัติของนักฟุตบอลในทุกรุ่นอายุ จนถึงระดับฟุตบอลอาชีพ หรือเปลี่ยนบทบาทไปเป็นอาชีพอื่นๆ ในวงการฟุตบอล ด้วยหมายเลขประจำตัวเดียวในระบบออนไลน์ ซึ่งจากที่ประชุมคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดลงทะเบียนได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะมีการประกาศความคืบหน้าให้ทราบต่อไป”

Image may contain: screen and indoor

“อีกเรื่องคือ โครงการฝึกอบรมผู้ฝึกสอน (Education) โดยจะเป็น หลักสูตรพิเศษสำหรับนักกีฬาฟุตบอลอาชีพชาย และนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่มีความสนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนฟุตบอลอาชีพ”

“นอกจากนี้ยังมี โครงการอบรมผู้ฝึกสอน ที่ทางระเบียบเอเอฟซีจะเปิดสมาคมฯ ยื่นขอให้เทียบใบประกาศและคอร์สเรียนลัดสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ หรือ อดีตนักฟุตบอล เพราะจากปัญหาที่สมาคมฯ ได้พบในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีบุคลากรที่ไม่สามารถประกอบอาชีพในสโมสรฟุตบอล โดยไม่สามารถทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพที่สมาคมฯ จัดขึ้น เพราะขาดคุณสมบัติ แม้ว่าจะเคยผ่านการอบรมมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ข้อมูลสูญหาย หรือไม่ได้เข้าอบรมในคอร์สที่จัด หรือรับรองโดยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) โดยตรง”

“นโยบายของนายกสมาคมฯ ต้องการแก้ไขและให้ผู้ฝึกสอนฟุตบอลได้มีโอกาสในการทำงานวงการฟุตบอล จึงอนุมัติโครงการ ”Moving Forward! Coaching Equivalency Program” เป็นการขอเทียบไลเซนส์ ให้กับผู้ที่ผ่านการอรม C, B, A ของสมาคมฯ ก่อนปี 2009 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่เอเอฟซีจะมีระบบฐานข้อมูลของผู้ฝึกสอนฟุตบอล”

“อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและรอการอนุมัติจาก AFC ให้สมาคมฯ สามารถจัดโครงการ Moving Forward! Fast Track Coaching Course หรือการเข้าเรียนลัดให้กับนักฟุตบอลอาชีพ, อดีตนักฟุตบอลอาชีพ และนักฟุตบอลหญิง ที่จะสามารถลัดขึ้นไปเข้าอบรมในคอร์สของ AFC เช่น บี ไลเซนส์ หรือ เอ ไลเซนส์ ได้ โดยเกณฑ์ขั้นต่ำจะเป็นจำนวนฤดูกาลที่ลงเล่นฟุตบอลอาชีพ เพื่อเปิดโอกาสและสนับสนุนให้นักฟุตบอลอาชีพได้ต่อยอด และทำงานในวงการฟุตบอลต่อไป ซึ่งทั้ง 2 โครงการข้างต้น หากทางสมาคมฯ ได้รับอนุมัติจาก AFC แล้ว จะทำการแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันครับ”

https://www.facebook.com/FootballAssociationOfThailand/posts/2515308972067562?__tn__=-R

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button