1MDB: ช่อมั่นใจหลักฐาน ไม่กลัวประยุทธ์ขู่ฟ้อง เผยยังมีอีกสิบกว่าเรื่องยังไม่เปิด
1MDB: ช่อมั่นใจหลักฐาน ไม่กลัวประยุทธ์ขู่ฟ้อง เผยยังมีอีกสิบกว่าเรื่องยังไม่เปิด
1MDB – วันนี้ นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์จากประเด็นที่ว่าฝ่ายรัฐบาลอาจจะดำเนินคดีกับตน กรณีกล่าวพาดพิงว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามีส่วนเกี่ยวข้องปกปิดกรณีทุจริตกองทุน1MDB ของมาเลเซีย ว่า “ถือว่าน่าผิดหวังมากสำหรับรัฐบาล เมื่อวานก็ได้พูดไปแล้วว่าต้องการให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ จริงใจโดยการแสดงข้อเท็จจริงกับประชาชน ถ้าบอกว่าเราพูดไม่จริงก็โชว์หลักฐานมาเลย ตอนเราบอกว่าท่านอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เราได้โชว์หลักฐานทำไมเราถึงเช่นนั้น มีหลักฐานอะไรบ้างทำให้เราเชื่อได้ว่า ท่านอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ท่านกลับขู่จะฟ้องร้อง
ถ้าท่านมีความจริงใจในความบริสุทธิ์ใจของตนเอง เอาหลักฐานออกมาดู ตกลงว่าไม่จริง ที่ว่าตนกล่าวหาท่านลอย ๆ ลอยอย่างไร หลักฐานที่ว่าเราเอามาพูด หลักฐานไหนบางเท็จ อย่างที่บอกหลักฐานส่วนใหญ่ได้เข้าสู่ระะบบศาลสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองเรียบร้อยแล้ว หลักฐานอีกบางส่วนเป็นหมายแดงจากตำรวจสากล ตำรวจทั่วโลกก็มี สามารถเข้าถึงได้ ต่อให้ท่านไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลจากทางประเทศไทย แต่ประเทศอื่นก็เปิดเผยได้อยู่ดีว่าหมายแดงเหล่านี้มีอยู่จริหรือไม่
เราขอเรียกร้องความจริง ประชาชนคนไทยมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ความจริงว่ารัฐบาลของเขาไปทำอะไรเอาไว้บ้าง เรื่องนี้ต้องมีคำตอบจากรัฐบาล ไม่ใช่ออกมาข่มขู่จะฟ้องร้อง
ตนมั่นใจในหลักฐานที่ออกมาเปิดเผย ถ้าไม่มั่นใจไม่แถลง เราไม่นิยมโกหกใส่ร้ายคนอื่นอยู่แล้ว อะไรที่ไม่มีหลักฐานก็จะไม่พูด ไม่ได้มีการกล่าวหาว่าท่านทำผิดอย่างนี้จริง อะไรมีหลักฐานประจักษ์ชัดว่าท่านทำก็บอกว่าท่านทำ ที่แถลงมีส่วนทั้งหลักฐาน ทั้งข้อสังเกต
ถ้าจะฟ้องร้อง ทางเราก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องกับท่าน ทีนี้เห็นว่ามีหลายหน่วยงานได้รับการเอ่ยถึงในแถลงข่าว ตนคิดว่าแทนที่จะไม่ให้เกิดความยุ่งยาก ให้นายกประยุทธ์ฟ้องมาเลยคนเดียวก็ได้ หลักฐานต่างๆ ก็จะได้แสดงอีกครั้งในชั้นศาล และได้เปิดเผยกับสาธารณะอีกชั้นหนึ่ง
ไหน ๆ เรื่องนี้เปิดออกมา ก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าจะสานต่อไปเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนสืบเรื่องนี้ก็ช็อกที่ทำเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ได้อย่างไร ที่เปิดโปงเรื่องนี้ ไม่ได้เตรียมการกันสองวัน เรื่องนี้ถูกเตรียมไว้เพื่อใช้ในการอภิปรายอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการถูกยุบพรรคแล้วแค้นเคือง แต่ในเมื่อตนเป็นผู้อภิปราย ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่สามารถเข้าไปอภิปรายในสภาได้ ก็เห็นว่าเรื่องใหญ่ รายละเอียดเยอะ คงไม่สามารถเปลี่ยนคนอภิปรายได้ภายใน 2-3 วัน ก็เลยจำเป็นว่าเปิดอภิปรายนอกสภา
แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในสิบกว่าเรื่องที่ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องไหนเป็นเรื่องกล่าวหาลอยๆ ทุกเรื่องหนักแน่นชัดเจน ไม่กลัวถูกฟ้องกลับ ถ้ากลัวคงไม่มาถึงขนาดนี้ ถ้าเรากลัวอนาคตตัวเอง แล้วใช้จะห่วงอนาคตประเทศชาติ