จับแล้วแอคเคอร์เสื่อม #หลานของผม อึ้งเรื่องพลิก ตัวละครโผล่เพิ่ม
จับแล้วแอคเคอร์เสื่อม #หลานของผม อึ้งเรื่องพลิก มโนแฟนเป็นหลาน ตัวละครโผล่เพิ่มสร้างแอคเคาต์เลียนแบบ โดนจับตามระเบียบ
หลานของผม – จากกรณีร้อนแรงทางสังคมสำหรับแฮชแท็ก #หลานของผม ที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยเป็นเรื่องราวดราม่าที่ทั้งผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม เมื่อแอคเคาต์ทวิตเตอร์ด้านมืดรายหนึ่งชื่อว่า หลานของผม ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2 หมื่นคน ได้แอบถ่ายรูปหลานสาว ซึ่งเป็นลูกพี่สาวย้ายมาเรียนในเมือง เลยได้พักอยู่กับตน
อ่านข่าวก่อนหน้า: #หลานของผม ชาวทวิตรุมแหกแอคเสื่อมชื่อหลานของผม แอบถ่ายหลานสาวตัวเอง
ต่อมาวันที่ 28 มกราคมที่พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือปอท. เปิดเผย เบื้องต้นได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด
อ่านข่าวก่อนหน้า : #หลานของผม ปอท.สั่งสอบ ภาพ-คลิปอนาจาร แอบถ่ายหลานสาว
ล่าสุด พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. นำทีมแถลงการจับกุมผู้ใช้แอคเค้าต์ทวิตเตอร์หลานของผม 2 ราย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ระบุว่าส่งชุดปฏิบัติการไปทำงานรวบแอคเคาต์ทวิตเตอร์ “หลานของผม” 2 บัญชี มีคนเล่น 2 คน 1. นายชัยวัฒน์ อายุ 31 ปี 2. นายเอ เอกมล บัญชีแรกใช้ @Lovephrik อันที่สองใช้ หลานของผม
วันที่ 7 ก.พ. ได้เข้าตรวจค้นสองเป้าหมาย ทีมแรก ตร.ภูธรภาค 2 ไปที่ จันทบุรี ณ บ้านพักนายชัยวัฒน์ พบหลักฐานยืนยันเป็นผู้ถ่ายคลิปที่ปรากฎในทวิตเตอร์ชื่อหลานของผม @Lovephrik
นายชัยวัฒน์สารภาพว่าถ่ายคลิปเล่นกับแฟน อายุประมาณ 20 ปี เป็นนักศึกษา แต่แอบเอาคลิปดังกล่าวมาแต่งเรื่องว่าเป็นการแอบถ่ายหลานตัวเอง ซึ่งแฟนก็ไม่รู้ พฤติการณ์ของนายชัยวัฒน์มีการเอากล้องมาตั้งให้เหมือนเป็นการแอบถ่าย ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลใด ๆ มีลักษณะอันลามก ซึ่งประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในขณะที่อีกแอคเคาต์ชื่อหลานของผม (@larnkongpom) ตัวปลอม ได้สั่งให้ชุดปฏิบัติการที่ 1 ไปดำเนินการ ทั้งนครบาล ทั้ง ปปง. เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเอ เอกมล อายุ 23 ปี ใน กทม. พบหลักฐานเป็นทวิตเตอร์หลานของผม
นายเอกมลรับสารภาพว่า ไปพบทวิตเตอร์ “หลานของผม” อันแรก และรู้สึกชื่นชอบในเนื้อหา จึงใช้อีเมลของตนไปหลอกล่อโทรศัพท์ของเพื่อนมาใช้สมัครทวิตเตอร์หลานของผมให้เหมือนอันแรก แต่คนนี้มีการครอบครองสื่อลามกเด็กจำนวนมาก มีลักษณะประกาสขายสื่อลามกเด็ก จึงรวบรวมพยานหลักฐานให้ตำรวจ สน.หลักสอง ข้อหาครอบครอง ค้า สื่อประสงค์แห่งการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/2 โทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 6 หมื่น- 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกข้อหาคือ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลใด ๆ มีลักษณะอันลามก มาตรา 14 (4) ตามพรบ.คอมพิวเตอร์ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี