ธนาธรโพสต์ การตัดสินใจของพลโทพงศกร ตอกย้ำความตั้งใจจริงของอนาคตใหม่
ธนาธรโพสต์ การตัดสินใจของพลโทพงศกร ตอกย้ำความตั้งใจจริงของอนาคตใหม่ ในการปฏิรูปกองทัพ
จากกรณี พล.ท.พงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้ไปออกรายการ “ยุคล ขยี้ข่าวทอล์ค” และที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์คือเรื่องที่พล.ท.พงศกร ระบุว่ายังอยู่บ้านหลวงแม้ว่าเกษียณแล้ว โดยจ่ายค่าบำรุงเดือนละ 2,000 บาท บวกค่าน้ำค่าไฟ ที่ยังไม่ออกเพราะรอเก็บเงินดาวน์บ้าน
วานนี้ นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีการอยู่บ้านหลวงของพล.ท.พงศกรว่าหพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ พล.ท.พงศกรอยู่ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศ จะแถลงต่อสาธารณะโดยเร็วที่สุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ต่อมา พล.ท.พงศกร รอดชมพู ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก พงศกร รอดชมภู ระบุว่า
“เนื่องจากปฏิบัติราชการอยู่ต่างประเทศ จึงเพิ่งทราบข่าวทางประเทศไทยเกี่ยวกับตัวผม ดังนั้นจึงขอเรียนเพื่อนๆสมาชิกโดยเฉพาะผู้ที่สนับสนุนแนวทางประชาธิปไตยว่า
๑. ผมขออภัยที่ไม่ได้แจ้งเรื่องการยังพักในหน่วยทหารให้สาธารณชนทราบตั้งแต่แรก เนื่องจากอยู่ในช่วงเตรียมตัวย้ายออก
๒. เพื่อให้การย้ายออกมีความชัดเจนขึ้น ผมจึงจะทำหนังสือแสดงความต้องการคืนบ้านพักภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ศกนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวงรอบการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี
๓. ขอลาออกจากกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และหน้าที่ความรับผิดชอบอื่นหากมีต่อพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ ทั้งนี้จะได้แจ้งต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้วอีกครั้งหนึ่ง”
ล่าสุดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้โพสต์เฟซบุ๊กต่อกรณีของ พล.ท.พงศกร รอดชมพู ระบุว่า “การตัดสินใจของพลโทพงศกร ตอกย้ำความตั้งใจจริงของอนาคตใหม่ในการปฏิรูปกองทัพ”
ในวันที่เราเริ่มก่อร่างสร้างพรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในความตั้งใจของผม ก็คือเราจะต้องมีตัวแทนของทหารฝั่งก้าวหน้ามาร่วมเป็นแกนนำพรรค เพราะเราเชื่อว่าทหารที่รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย หวังให้สังคมไทยเท่าเทียมและเป็นธรรมกว่านี้มีอยู่มากมาย เป็นเสียงส่วนใหญ่ในกองทัพด้วยซ้ำ เพียงแต่พวกเขามักไม่อยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่จะได้แสดงออกถึงจุดยืนอุดมการณ์เหล่านี้ และที่สำคัญยิ่งกว่า นโยบายปฏิรูปกองทัพ ยุติรัฐประหาร อันเป็นนโยบายหลักของเรา คงจะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้มีตัวแทนของทหารมามีส่วนร่วมออกแบบ
แต่การจะหานายทหารสักคนมาร่วมลงเรือลำเดียวกับเราไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายเลย ในวันนั้นอนาคตใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน พรรคนี้จะเป็นแบบไหน ทำงานอย่างไร ไม่มีใครรู้แน่ ที่รู้แน่มีอย่างเดียว คือพรรคนี้ “ชนทหาร” จะหาทหารมาร่วมทางกับเราจึงเป็นเรื่องยาก และเราเองก็ต้องแน่ใจเช่นกันว่า ทหารคนนี้มีเนื้อแท้เป็นประชาธิปไตย ไม่มีประวัติด่างพร้อยละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือเห็นดีเห็นงามกับการทำรัฐประหาร
.
แล้วเราก็ได้รับเกียรติจากพลโทพงศกร รอดชมภู หรือ “เสธ.โหน่ง” อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่
เสธ.โหน่ง ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง ตั้งแต่เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดทำนโยบายปฏิรูปกองทัพ รวมถึงจัดทำร่างพระราชบัญญัติระเบียบการรับราชการทหาร ฉบับแก้ไข หรือที่รู้จักในนาม “พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร”
ทั้งหมดนี้ เสธ.โหน่งทำทั้งในฐานะทหารผู้ผ่านประสบการณ์ เห็นปัญหาภายในกองทัพที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ต้องการให้ทหารเป็นทหารอาชีพ กลับเข้ากรมกอง ยุติการแทรกแซงการเมืองซึ่งมีแต่จะลดเกียรติภูมิของกองทัพลง และในฐานะประชาชนผู้รักความเป็นธรรม อยากเห็นการรัฐประหารหมดไปจากประเทศไทย
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดกรณีบ้านพักของ เสธ.โหน่ง กระทั่งทำให้ เสธ.โหน่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งการเร่งคืนบ้านพักของราชการภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ผมเองก็คารวะในน้ำใจ ในความรับผิดชอบต่อพรรค สมาชิกพรรค และประชาชนผู้ให้การสนับสนุนการปฏิรูปกองทัพ
ผมในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ น้อมรับคำวิจารณ์ และขออภัยพี่น้องประชาชนทุกท่านอีกครั้งต่อกรณีที่เกิดขึ้น ผมหวังว่าการแสดงความรับผิดชอบของพลโทพงศกรจะเป็นการยืนยันความตั้งใจจริงของเราที่จะปฏิรูปกองทัพ ยุติระบบอภิสิทธ์ของทหารระดับสูงและธุรกิจแอบแฝงในค่ายทหาร
พลโทพงศกร รอดชมภู จะยังคงเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของพรรคอนาคตใหม่ในสภา ผลักดันการปฏิรูปกองทัพ ซึ่งมีก้าวแรกคือการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ผมหวังว่าพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนที่อยากเห็นสังคมไทยเจริญก้าวหน้า เห็นกองทัพที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพเท่าทันโลก จะเดินร่วมกับเรา ผลักดันการปฏิรูปกองทัพเป็นวาระแห่งชาติให้ได้
เพื่ออนาคตใหม่ที่ดีกว่าของลูกหลานเรา
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
17 กุมภาพันธ์ 2563